เปิดตัว “คามาลา แฮร์ริส”

สหรัฐ 13 ส.ค.- นายโจ ไบเดน และนางคามาลา แฮร์ริส ขึ้นเวทีหาเสียงพร้อมกันเป็นครั้งแรกในฐานะผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีสหรัฐของพรรคเดโมแครต


วุฒิสมาชิกแฮร์ริส ขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกพร้อมกับนายไบเดนที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ 1 วันหลังจากนายไบเดนได้ประกาศให้นางแฮร์ริสเป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของเขาในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ในการปราศรัยครั้งแรกนางแฮร์ริส กล่าวโจมตีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าล้มเหลวในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยไม่ยอมเอาจริงเอาจริงกับโรคนี้มาตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาด และว่าขณะนี้สหรัฐมีโอกาสที่จะเลือกอนาคตที่ดีกว่าเก่าในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนนี้

ด้านนายไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกล่าวชื่นชมนางแฮร์ริสว่าเป็นผู้ที่มีความชาญฉลาดและมีประสบการณ์สูงพร้อมที่จะทำงานในตำแหน่งรองประธานาธิบดีอย่างยิ่ง และมั่นใจว่านางแฮร์ริสจะช่วยให้เขาเอาชนะประธานาธิบดีทรัมป์ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ในขณะที่รัฐบาลของนายทรัมป์กำลังเจอปัญหารุมเร้าหลายเรื่องทั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เศรษฐกิจตกต่ำ และปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ


ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าววิจารณ์นายไบเดนที่เลือกนางแฮร์ริสเป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีว่ามีความเสี่ยงอย่างยิ่งเพราะนางแฮร์ริสเคยเป็นคู่แข่งของนายไบเดนในการชิงตำแหน่งตัวแทนของพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งขั้นต้นและเคยกล่าวโจมตีนายไบเดนอย่างเผ็ดร้อน นายทรัมป์ระบุว่าการเลือกนางแฮร์ริสถือว่าเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงของนายไบเดนและเขาจะรอดูการดีเบตระหว่างนางแฮร์ริสกับรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ต่อไป

สำหรับประวัติของนางแฮร์ริสนั้น ปัจจุบันอายุ 55 ปี เกิดที่เมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นบุตรสาวของแม่ชาวอินเดียและพ่อชาวจาไมกา ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้อพยพที่เข้ามาอยู่ในสหรัฐ ปัจจุบันนางแฮร์ริสดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากก่อนหน้านั้นเคยได้รับเลือกเป็นอัยการแขวงของนครซานฟรานซิสโก และต่อมาได้รับเลือกเป็นอัยการของรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2553 โดยเป็นผู้หญิงคนแรกและเป็นคนผิวดำคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ หากนายไบเดน ชนะการเลือกตั้งในปลายปีนี้นางแฮร์ริสก็จะสร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นรองประธานาธิบดีที่เป็นผู้หญิงและเป็นชาวผิวดำคนแรกของสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข