ซิดนีย์ 6 ส.ค. –รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในนครเมลเบิร์นเป็นเวลา 6 สัปดาห์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยสั่งปิดร้านค้าและภาคธุรกิจเกือบทั้งหมดจนเกิดความวิตกว่าอาจเกิดปัญหาขาดแคลนอาหาร
ทางการรัฐวิกตอเรียรายงานว่า นครเมลเบิร์นที่มีประชากรราว 5 ล้านคน มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 471 คน และเสียชีวิต 8 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 12 คน ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรวมเป็น 483 คน ส่วนรัฐอื่น ๆ ไม่มีรายงานตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อ ส่งผลให้ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้นราว 20,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 255 คน ซึ่งนับเป็นสถิติที่น้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอยู่ค่อนข้างมาก ด้านนายแดเนียล แอนดรูว์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย เตือนพลเมืองเมลเบิร์นที่เข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์ อย่าตื่นตระหนกท่ามกลางภาวะขาดแคลนสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต และได้ย้ำว่า ชาวเมลเบิร์นไม่จำเป็นต้องกักตุนอาหารไว้เป็นเวลาหลายเดือน
ด้านนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียกล่าวว่า ทางการได้ปรับตัวเลขผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10 เนื่องจากการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง แต่หากนับรวมแรงงานที่อยู่ในโครงการเงินอุดหนุนช่วยเหลือค่าจ้างของออสเตรเลียด้วย อาจมีอัตราผู้ว่างงานสูงถึงเกือบร้อยละ 14 ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์ว่า มีอัตราผู้ว่างงานร้อยละ 9.25 ในปีนี้ หลังจากที่ออสเตรเลียต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจถดถอยครั้งแรกในรอบ 30 ปี. – สำนักข่าวไทย