เมลเบิร์น 2 ส.ค. – รัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐใหญ่เป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลีย ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติและบังคับใช้มาตรการใหม่ในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งรวมถึงการห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลากลางคืน หรือ เคอร์ฟิว และการห้ามจัดงานแต่งงานเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศ
รัฐวิกตอเรีย ประกาศมาตรการคุมเข้มล็อกดาวน์ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมแต่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงพุ่งสูงขึ้นวันละหลายร้อยคนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางการต้องประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้านตั้งแต่ 20.00-05.00 น. ตั้งแต่คืนวันนี้ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ซึ่งจะส่งผลให้ชาวนครเมลเบิร์นเกือบ 5 ล้านคนห้ามออกจากบ้าน ยกเว้น ออกไปทำงาน นายแดเนียล แอนดริวส์ มุขมนตรีของรัฐวิกตอเรีย ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติในวันนี้ และกล่าวว่า จะปรับมาตรการข้อจำกัดต่าง ๆ ขึ้นเป็นระดับที่ 4 จนถึงวันที่ 13 กันยายน หลังจากเกิดการะบาดภายในรัฐอย่างรุนแรงในระดับที่ยอมรับไม่ได้ ชาวนครเมลเบิร์นจะถูกจำกัดเวลาในการออกกำลังกายกลางแจ้งได้ไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ในแต่ละครัวเรือนจะอนุญาตให้สมาชิกเพียง 1 คน ออกไปจับจ่ายซื้อสิ่งของที่จำเป็นได้ในแต่ละวันในระยะทางในรัศมีทีจำกัด นอกจากนั้น ยังห้ามจัดพิธีแต่งงานในนครเบลเบิร์นด้วย นายแอนดริวส์ กล่าวว่า ในวันจันทร์จะมีการประกาศรายละเอียดเรื่องข้อจำกัดเพิ่มเติมที่จะกระทบกับสถานที่ทำงาน โดยระบุว่า ธุรกิจที่ยังไม่มีความสำคัญหรือจำเป็นมากนัก อาจจะต้องปิดกิจการไว้ก่อน ในวันนี้รัฐวิกตอเรียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 671 ราย และเสียชีวิต 7 ราย.-สำนักข่าวไทย