นิวเดลี 31 ก.ค. – อินเดียมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากกว่า 35,000 คน ทำสถิติแซงหน้าอิตาลีเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสูงอันดับ 5 ของโลก ขณะที่ภัยน้ำท่วมในรัฐพิหารส่งผลให้การควบคุมการระบาดหยุดชะงักลง
กระทรวงสาธารณสุขของอินเดียรายงานวันนี้ว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อินเดียมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น 779 คน ส่งผลให้มียอดผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 35,747 คน และเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสูงอันดับ 5 ของโลก รองจากสหรัฐ บราซิล สหราชอาณาจักร และเม็กซิโก โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 1.63 ล้านคน มากเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐและบราซิลซึ่งมีประชากรน้อยกว่าอินเดีย
ผู้เชี่ยวชาญหลายรายตั้งข้อสังเกตว่า ตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในอินเดียอาจมีมากกว่าที่รายงาน เนื่องจากทางการอินเดียตรวจหาเชื้อน้อย อีกทั้งยังมีผลการศึกษาเกี่ยวกับการตรวจหาสารภูมิต้านทานโรคโควิด-19 ที่พบว่า ชาวอินเดียร้อยละ 57 ในชุมชนแออัดของนครมุมไบติดเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นตัวเลขสูงกว่าที่ทางการรายงานมาก ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีผลการศึกษาคล้ายกันที่บ่งชี้ว่า เกือบ 1 ใน 4 ของชาวกรุงนิวเดลีติดโรคโควิด-19 ซึ่งนับเป็นตัวเลขสูงกว่าที่ทางการรายงานเกือบ 40 เท่า
ด้านอุทกภัยที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ส่งผลให้ทางการต้องอพยพประชาชนหลายหมื่นคนออกจากพื้นที่ และทำให้ความพยายามในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ต้องหยุดชะงักลง ดังเช่นในรัฐพิหาร ซึ่งเป็นรัฐที่ยากจนที่สุดของอินเดียและมีประชากรอาศัยอยู่ 125 ล้านคน มีรายงานผู้เสียชีวิตจากภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ 11 คน และผู้ประสบภัยกว่า 25,000 คนต้องอยู่ร่วมกันอย่างแออัดในศูนย์พักพิงชั่วคราว. – สำนักข่าวไทย