สิงคโปร์ 22 ก.ค.- ผลสำรวจพบว่า นักศึกษาชาวจีนที่ปกติมุ่งศึกษาต่อในสหรัฐ อังกฤษและออสเตรเลีย กำลังเปลี่ยนไปสมัครเรียนในเอเชียเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสิงคโปร์และมาเลเซีย เพราะมาตรการจำกัดการเดินทางจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และความสัมพันธ์ของจีนกับตะวันตกเสื่อมทรามลง
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ในฮ่องกงสอบถามมหาวิทยาลัย 14 แห่งในสิงคโปร์และมาเลเซีย ตอบกลับเพียง 5 แห่ง จำนวนนี้ 3 แห่งอ้างว่ามีนักศึกษาชาวจีนสมัครเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 33-130 จากปีก่อน บริษัทที่ปรึกษาการเข้ามหาวิทยาลัยของจีนชี้ว่า มาตรการจำกัดการเดินทางที่ใช้ในสหรัฐทำให้ครอบครัวชาวจีนต้องหาทางเลือกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสการศึกษาต่อในสหรัฐ นักศึกษาชาวจีนอาจต้องการหางานทำในประเทศที่เรียนจบ และไม่อยากให้การเรียนต้องสะดุดเพราะปัญหาในการขอวีซ่าหรือความสามารถในการทำงาน
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารมหาวิทยาลัยสิงคโปร์แห่งหนึ่งมองว่า ความไม่แน่นอนเพราะโรคโควิด-19 แพร่ระบาดอาจทำให้แผนการศึกษาต่อวุ่นวายในระยะสั้นเท่านั้น แนวโน้มที่นักศึกษาจีนหันมาสมัครเรียนต่อในสิงคโปร์และมาเลเซียจะพลิกกลับทันทีที่มีวัคซีน เพราะมหาวิทยาลัยในสหรัฐและอังกฤษยังคงได้รับความนิยมมากกว่าอยู่ดี จีนส่งออกนักศึกษาใหญ่ที่สุดในโลก ข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการจีนระบุว่า ปี 2561 มีนักเรียนไปศึกษาต่อในต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 662,000 คน
สถาบันการศึกษาระหว่างประเทศระบุว่า ปีการศึกษา 2561/2562 นักศึกษาต่างชาติ 1.1 ล้านคนในสหรัฐ เป็นนักศึกษาจีนมากถึง 1 ใน 3 แต่มีแนวโน้มลดลงตั้งแต่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า นักศึกษาจีนต้องสงสัยว่าเข้ามาทำวิจัยให้หน่วยงานจีนจะถูกระงับวีซ่า ขณะที่นักศึกษาต่างชาติเองกังวลเรื่องผลกระทบจากความตึงเครียดจีน-สหรัฐ และการประท้วงทั่วสหรัฐเรียกร้องสิทธิคนผิวดำหรือ Black Lives Matter ส่วนอังกฤษมีนักศึกษาจีนประมาณ 120,000 คน แนวโน้มลดลงเพราะโรคโควิด-19 ระบาดหนัก และความสัมพันธ์สองประเทศตึงเครียดหลังจากอังกฤษห้ามใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยเทคโนโลยีในเครือข่าย 5 จี ขณะที่ออสเตรเลียมีนักศึกษาจีนประมาณ 150,000 คน ทางการจีนเตือนไม่ให้เดินทางไปออสเตรเลียที่สนับสนุนการสอบสวนอิสระเรื่องโควิด-19 มีต้นตอจากจีนหรือไม่.- สำนักข่าวไทย