บูคาเรสต์ 21 ก.ค. – โรมาเนียลงมติเห็นชอบกฎหมายห้ามผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ออกจากโรงพยาบาล ซึ่งส่งผลให้กฎหมายฉบับก่อนหน้าที่อนุญาตให้ผู้ป่วยติดเชื้อออกจากโรงพยาบาล หรือมีสิทธิ์ปฏิเสธการรักษาสิ้นสุดลงวันนี้
โรมาเนียมีรายงานการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรงในเดือนนี้ และมียอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เริ่มระบาดในเดือนกุมภาพันธ์ จนกระทั่งเดือนนี้ รัฐบาลโรมาเนียได้ใช้อำนาจผ่านคณะรัฐมนตรี เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโดยการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ และการกักตัว หรือการให้ผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้ออยู่แต่ในที่พัก อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียชี้ขาดว่า โรมาเนียไม่สามารถบังคับใช้มาตรการกักกัน หรือการดูแลรักษาในโรงพยาบาลตามคำสั่งของรัฐบาล และมาตรการกักตัวดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านกฎหมายรัฐสภาเท่านั้น ทั้งนี้ กฎหมายใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้เป็นกฎหมายเร่งด่วนที่ผ่านความเห็นชอบจากสภา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ และทำให้กฎหมายฉบับก่อนหน้าเป็นโมฆะ
นายเนลู ทาทารู รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของโรมาเนีย ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ดิจิ 24 เมื่อวานนี้ว่า ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมเป็นต้นไป รัฐบาลได้ออกกฎหมายเพื่อดูแลและแยกผู้ติดเชื้อออกจากสังคม กฎหมายดังกล่าวจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อลงได้ นายทาทารูกล่าวเพิ่มเติมว่า โรมาเนียอาจมียอดผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่า 1,000 คนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทำให้รัฐบาลอาจตัดสินใจใช้มาตรการกักตัวเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดในชุมชน
จากข้อมูลพบว่า มีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 972 คนที่ปฏิเสธเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามคำแนะนำของแพทย์ในระหว่างวันที่ 2-20 กรกฎาคมที่ผ่านมา และมีผู้ติดเชื้อทั้งหมดราว 3,680 คนที่ไม่ได้รับการรักษาแต่อย่างใด ด้านนายกรัฐมนตรีลูโดวิก ออร์บัน ของโรมาเนีย เผยว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้คาดการณ์ผลกระทบจากการประกาศยกเลิกกฎหมายที่ส่งผลต่อตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น
โรมาเนียรายงานวานนี้ว่า มีผู้ติดเชื้อสะสม 38,139 คน และผู้เสียชีวิต 2,038 คน. – สำนักข่าวไทย