ฮ่องกง 15 ก.ค. – ทางการฮ่องกงประกาศวันนี้ให้ประชาชนเข้าสู่มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมอีกครั้ง ด้วยการสั่งปิดกิจการธุรกิจหลายประเภทและการบังคับให้ชาวฮ่องกงสวมหน้ากากอนามัยบนรถโดยสารสาธารณะ หลังเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ฮ่องกงตรวจพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ภายในฮ่องกงกว่า 200 คน ซึ่งทำให้ทางการฮ่องกงเชื่อว่า เกิดการระบาดระลอกที่ 3 บนเกาะฮ่องกง เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของฮ่องกงกล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีผู้ป่วยติดเชื้อภายในฮ่องกงถึง 70 คนที่ไม่รู้ที่มา
ทางการฮ่องกงได้ประกาศเพิ่มมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ได้แก่ การบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยบนรถโดยสารสาธารณะ การห้ามรวมตัวในที่สาธารณะเกินกว่า 4 คน ตลอดจนการสั่งปิดโรงยิม ร้านทำผม บาร์ ไนท์คลับ และร้านคาราโอเกะ ด้านหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลีของฮ่องกง รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงได้เข้าจับกุมชายวัย 70 ปีที่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการรถไฟใต้ดิน ซึ่งถือเป็นชาวฮ่องกงคนแรกที่ถูกจับกุมหลังทางการประกาศใช้มาตรการใหม่ โดยมีโทษปรับสูงสุดถึง 5,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (20,321 บาท)
ทางการฮ่องกงรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 รายใหม่ 19 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อภายในฮ่องกง 14 คน สถิติผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ของวันนี้ลดลงค่อนข้างมากจากในวันอังคารที่มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 48 คน ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมเป็นต้นมา ฮ่องกงมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1,500 คน และมีผู้เสียชีวิต 8 คน. – สำนักข่าวไทย