ลอนดอน 15 ก.ค.- รัฐมนตรีอังกฤษยืนยันว่า อังกฤษตัดสินใจเองเรื่องจะห้ามใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยเทคโนโลยีของจีนในเครือข่ายโทรคมนาคมแบบ 5 จี (5G) ไม่ใช่เพราะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตามที่กล่าวอ้าง
นายแมตต์ แฮนคอก รัฐมนตรีสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมของอังกฤษให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์สกายนิวส์วันนี้ กรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตว่า สหรัฐโน้มน้าวหลายประเทศมาก ๆ ส่วนใหญ่เขาเป็นคนโน้มน้าวเอง เรื่องไม่ให้ใช้อุปกรณ์หัวเว่ย เพราะเชื่อว่ามีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยใหญ่หลวง ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากอังกฤษประกาศวานนี้ว่า จะเลิกใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยในเครือข่าย 5 จี ภายในสิ้นปี 2570 นายแฮนคอกกล่าวว่า ทุกคนย่อมรู้จักโดนัลด์ ทรัมป์ดีอยู่แล้วว่าเป็นคนอย่างไร ใคร ๆ ก็อาจอ้างว่าเป็นผลงานของตนเองได้ แต่การตัดสินใจในเรื่องนี้เป็นไปตามการประเมินทางเทคนิคของศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติเรื่องอังกฤษจะมีระบบ 5 จีคุณภาพสูงที่สุดในอนาคตได้อย่างไร
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษสั่งห้ามผู้ให้บริการโทรคมนาคมอังกฤษซื้ออุปกรณ์ของหัวเว่ยภายในสิ้นปีนี้ และให้เวลาถอดอุปกรณ์หัวเว่ยออกจากระบบภายใน 7 ปี กลับลำการตัดสินใจจากเดือนมกราคมที่ให้หัวเว่ยจัดหาอุปกรณ์ได้สูงสุดร้อยละ 35 สำหรับเครือข่าย 5 จี ที่ไม่ใช่เครือข่ายหลัก ด้านนายโอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีดิจิทัล วัฒนธรรม สื่อและกีฬาแถลงต่อรัฐสภาว่า ไม่ใช่การตัดสินใจง่าย ๆ แต่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับเครือข่ายโทรคมนาคมในสหราชอาณาจักร เพื่อความมั่นคงแห่งชาติและเศรษฐกิจทั้งในปัจจุบันและระยะยาว นายดาวเดนให้เหตุผลที่รัฐบาลกลับลำการตัดสินใจว่า ศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ สังกัดสำนักงานใหญ่การโทรคมนาคมรัฐบาลหรือจีซีเอสคิว (GCHQ) ซึ่งเป็นหน่วยงานข่าวกรองและความมั่นคงแจ้งว่า การที่สหรัฐออกมาตรการลงโทษใหม่ต่อหัวเว่ย บ่งชี้หัวเว่ยเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ.- สำนักข่าวไทย