เวียนนา 8 ก.ค.- สหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ชี้ว่า การที่นานาชาติเร่งหาซื้ออุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลหรือพีพีอี (PPE) ช่วงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด เปิดช่องให้กลุ่มอาชญากรทำเงินด้วยการเร่ขายพีพีอีไม่ได้คุณภาพและอาจเปลี่ยนไปทำเงินกับยาไม่ได้คุณภาพในอีกไม่นาน
สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งยูเอ็น ออกรายงานวันนี้ว่า โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ตลาดโลกต้องการพีพีอีมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อาชญากรซึ่งปรับตัวเร็วมากจึงสบโอกาสเร่ขายพีพีอีไม่ได้คุณภาพ รวมทั้งอุปกรณ์การแพทย์ไม่ได้คุณภาพหรือเป็นของปลอมแต่ไม่มากเท่าพีพีอี นอกจากนี้ยังมีการหลอกลวงด้วยการรับเงินแต่ไม่ส่งของให้ รายงานไม่ได้ยกตัวอย่างกลุ่มอาชญากรเหล่านี้ แต่พูดถึงอาร์เจนตินาว่ากำลังสอบสวนองค์กรแห่งหนึ่งที่ผลิตผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อสำหรับมือ หน้ากากอนามัย และพีพีอีที่ไม่ได้รับอนุญาต และพูดถึงข่าวการผลิตหน้ากากอนามัยปลอมในตุรกี
รายงานระบุว่า แนวโน้มในภูมิภาคชี้ว่าการยึดได้พีพีอีจำนวนมากที่ไม่ได้คุณภาพ หน้ากากอนามัยและชุดตรวจหาเชื้อปลอม เกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จำนวนมาก และพบผู้ป่วยเป็นแห่งแรก ๆ อย่างเอเชีย ยุโรปและอเมริกา ส่วนเรื่องหลอกลวงพบว่า เดือนมีนาคมทางการเยอรมนีทำสัญญากับบริษัทในเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ให้ผลิตหน้ากากอนามัยมูลค่า 15 ล้านยูโร (ราว 529 ล้านบาท) ผ่านเว็บไซต์เลียนแบบเว็บไซต์บริษัทถูกกฎหมายในสเปน รายงานเรียกร้องให้นานาชาติเพิ่มความร่วมมือในการกำกับดูแลและตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าหากมียารักษาและวัคซีนป้องกัน กลุ่มอาชญากรจะเปลี่ยนจากพีพีอีไปเป็นยาและวัคซีน ซึ่งจะเป็นอันตรายยิ่งขึ้นไปอีกหากเป็นของไม่ได้คุณภาพ.- สำนักข่าวไทย