ซิดนีย์ 2 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลียตั้งด่านตรวจ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโคโรนาในแถบชานเมืองนครเมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศในวันนี้ แม้ในบางพื้นที่เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางแล้ว
นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลียแถลงต่อสื่อมวลชนระบุถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตชานเมืองของนครเมลเบิร์นที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสว่า ชาวออสเตรเลียกว่า 300,000 คน กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ซึ่งพวกเราล้วนเคยผ่านมาได้ นอกจากนี้ นายฮันต์ ยังกล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า สถานการณ์แพร่ระบาดครั้งใหม่นี้จะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตที่เป็นไปตามมาตรการล็อกดาวน์
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดี โดยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมราว 8,000 คน ผู้เสียชีวิต 104 คน และมีผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลน้อยกว่า 400 คน อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในรัฐวิกตอเรียเมื่อไม่นานมานี้ ส่งผลให้เกิดความหวั่นวิตกว่าจะเกิดการแพร่ระบาดระลอกที่สอง ทั้งนี้ หลายรัฐในออสเตรเลียประกาศจะเริ่มเปิดพรมแดนระหว่างกันภายในประเทศ ยกเว้นรัฐวิกตอเรีย ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรสูงสุดในออสเตรเลีย ยังคงเปิดพรมแดน แต่ยกเว้นกับประชาชนที่มาจากพื้นที่ 36 เขตในรัฐวิกตอเรีย ทั้งนี้ รัฐวิกตอเรียรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 77 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสองหลักตลอดทุกวันในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การติดเชื้อใหม่ในรัฐอื่นๆ ไม่มีหรือเป็นตัวเลขเพียงหลักเดียว.–สำนักข่าวไทย