ซิดนีย์ 29 มิ.ย. – นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย กล่าววันนี้ว่า การกลับไปเปิดการติดต่อระหว่างรัฐในออสเตรเลียจะช่วยสนับสนุนการจ้างงาน แม้ว่าจะมีรัฐที่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ก็ตาม
รัฐเซาท์ออสเตรเลียและแทสเมเนีย ประกาศยืนยันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า จะเปิดพรมแดนในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนรัฐควีนส์แลนด์คาดว่าจะประกาศแบบเดียวกันในวันนี้ นายมอร์ริสัน ให้สัมภาษณ์วิทยุ 2จีบี ว่า ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เดินหน้าเปิดชายแดนระหว่างรัฐ ดังนั้น ควรจะเปิดรัฐให้สามารถเดินทางติดต่อกันได้ เพราะจะสนับสนุนเรื่องการจ้างงานในรัฐเหล่านี้ ออสเตรเลีย ถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมประมาณ 7,700 คนและเสียชีวิต 104 ราย อย่างไรก็ตาม การที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในรัฐวิกตอเรีย ทำให้กระทบกับแผนการที่จะยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม เขตแดนของรัฐวิกตอเรีย อยู่ติดกับของนิวเซาท์เวลส์ และเซาท์ออสเตรเลีย ทำให้เกิดความกังวลว่า อาจจะทำให้ไวรัสระบาดไปยังรัฐข้างเคียงได้ นายกรัฐมนตรีมอร์ริสัน ยังกล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่ออสเตรเลียต้องประสบกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และอัตราการว่างงานพุ่งสูงที่สุดในรอบ 19 ปี ที่ร้อยละ 7.1.-สำนักข่าวไทย