รัฐวอชิงตัน 24 มิ.ย. – นายเจย์ อินสลี ผู้ว่าการรัฐวอชิงตันของสหรัฐออกคำสั่งให้ผู้อยู่อาศัยในรัฐ ต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ในขณะที่ทั่วประเทศกำลังพยายามหาวิธีการในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วงผ่อนคลายมาตรการและเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
ความเคลื่อนไหวของผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน มีขึ้นหลังจากรัฐแอริโซนา แคลิฟอร์เนีย มิสซิสซิปปี และเนวาดา ได้รายงานจำนวนผู้ป่วยใหม่สูงเป็นสถิติใหม่ ตามรัฐเท็กซัสที่เพิ่งทำสถติใหม่ไปเมื่อวันจันทร์ ขณะที่รัฐวอชิงตันมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 35% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แม้สหรัฐสามารถควบคุมการระบาดอยู่ได้นานหลายสัปดาห์ในเดือนพฤษภาคม แต่ในสัปดาห์ที่แล้วจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่โดยรวมกลับเพิ่มขึ้นถึง 25% โดยมี 10 รัฐ ที่รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% จนขณะนี้หลายรัฐและเมืองใหญ่ได้ออกกฎให้ต้องสวมหน้ากากอนามัย เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางผู้ว่าการรัฐได้แจ้งให้ผู้อยู่อาศัยต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน
ทั่วสหรัฐในขณะนี้ ไวรัสได้เริ่มระบาดสู่พื้นที่ชนบทแล้ว และหลายรัฐได้กลับมามีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มสูงอีก เช่น รัฐแอริโซนาและรัฐเท็กซัส ที่เพิ่งยกเลิกข้อจำกัดเพื่อชะลอการแพร่กระจายของโรคไปก่อนหน้านี้ ขณะที่ นพ.แอนโทนี เฟาชี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐได้แจ้งต่อคณะกรรมาธิการของสภาว่า ผู้ป่วยในหลายๆ รัฐเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วงมาก และช่วงเวลาสองสัปดาห์ข้างหน้า คือ ช่วงเวลาสำคัญ ที่ต้องควบคุมการระบาดให้ได้.- สำนักข่าวไทย