เม็กซิโกซิตี 20 มิ.ย.- ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ของเม็กซิโกยอมรับว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการอันน่าอับอายเมื่อปีก่อนเรื่องให้กองทัพตามล่าตัวจนสามารถจับกุมบุตรชายของนายฮัวคีน กุซมาน หรือเอล ชาโป ราชายาเสพติดชื่อกระฉ่อนแล้วสั่งให้ปล่อยตัว
นายโลเปซ โอบราดอร์ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่าเป็นผู้สั่งยุติปฏิบัติการและปล่อยตัวอาชญากรเพื่อปกป้องชีวิตผู้บริสุทธิ์กว่า 200 คน ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคมปีก่อน เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจปิดล้อมและยิงต่อสู้กับแก๊งยาเสพติดในเมืองกูเลียกัง เมืองเอกรัฐซีนาโลอา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก นานหลายชั่วโมง มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 14 คนตามข้อมูลของทางการ ชาวเม็กซิโกติดตามการถ่ายทอดสดการปะทะที่หนักหน่วงราวกับสงคราม แต่เหตุการณ์จบลงที่กำลังเจ้าหน้าที่ล่าถอยและส่งตัวนายโอวิดิโอ กุซมาน โลเปซ หรือที่รู้จักในชื่อเอล ราตอน วัย 29 ปีในเวลานั้นให้แก่สมุนของเขา
ปฏิบัติการนี้ถูกประณามทั้งในและนอกประเทศว่าเป็นการพ่ายแพ้ที่น่าอับอาย และเป็นหลักฐานที่ไม่สามารถเถียงได้ว่าแก๊งยาเสพติดมีอิทธิพลเหนือเมืองกูเลียกังและทั่วเม็กซิโก ประธานาธิบดีโลเปซ โอบราดอร์แก้ต่างในเวลานั้นว่า หัวหน้าหน่วยความมั่นคงเป็นคนตัดสินใจให้ล่าถอย แต่เผยกับสื่อเมื่อวานนี้ว่า เขาเป็นคนตัดสินใจ เพราะต้องเลือกทางที่ดีที่สุดในสถานการณ์ยากเย็นแบบนั้น เพราะหากไม่ยุติปฏิบัติการ จะมีผู้บริสุทธิ์ล้มตายไม่ต่ำกว่า 200 คน และว่าวันสองวันหลังจากนั้นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้โทรศัพท์มาเสนอให้ความช่วยเหลือ แต่เขาได้ปฏิเสธไป การเปิดเผยของผู้นำเม็กซิโกจุดกระแสถกเถียงเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง นายโอวิดิโอ กุซมาน โลเปซ และนายฮัวคีน กุซมาน โลเปซ พี่ชาย ถูกสหรัฐตั้งข้อหาค้ายาเสพติด ส่วนบิดาของทั้งคู่ถูกเม็กซิโกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปสหรัฐในปี 2560 และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต.-สำนักข่าวไทย