วอชิงตัน 16 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐปฏิเสธคำขอของเมืองทัลซา รัฐโอคลาโอมาที่ขอให้งดการชุมนุมหาเสียงเลือกตั้งในสุดสัปดาห์นี้ เพราะสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ยังรุนแรงอยู่ พร้อมกับคุยว่าจะเพิ่มจำนวนคนชุมนุมสามเท่าเป็น 60,000 คน
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า สถานที่จัดการชุมนุมจุคนได้ 22,000 ที่นั่ง แต่กำลังคิดจะขยายไปยังหอประชุมข้าง ๆ ที่จุคนได้อีก 40,000 ที่นั่ง และได้ทวีตอ้างว่ามีคนขอตั๋วเข้าร่วมการชุมนุมที่เมืองทัซลาในคืนวันเสาร์เกือบหนึ่งล้านคนแล้ว ขณะที่เอเอฟพีเสริมว่า เมืองนี้มีประชากรไม่ถึง 500,000 คน ทรัมป์ชมรัฐโอลาโฮมาว่าต่อสู้กับโรคโควิด-19 ได้ดีเยี่ยม เดิมทรัมป์กำหนดหาเสียงที่เมืองนี้ในวันที่ 19 มิถุนายน แต่ถูกวิจารณ์ว่าตรงกับวันเสรีภาพหรือ Juneteenth ฉลองการเลิกทาสในรัฐเทกซัส ซึ่งเป็นรัฐสุดท้ายในสหรัฐ ประกอบกับกำลังมีการประท้วงทั่วประเทศต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติอย่างเป็นระบบ คณะหาเสียงของเขาจึงเลื่อนไปเป็นวันที่ 20 มิถุนายน แต่ยังคงถูกตำหนิว่าไม่รู้สึกรู้สาจากการจงใจหาเสียงในเมืองนี้ที่เคยเกิดเหตุสังหารหมู่ทางเชื้อชาติร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐปี 2464
บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ทัลซาเวิลด์ระบุอย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่รู้ว่าเหตุใดทรัมป์จึงเลือกเมืองนี้ แต่การมาของเขาจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ โควิด-19 ยังคงระบาดอยู่และยังไม่มีวัคซีน ระบบสาธารณสุขของเมืองจะกลายเป็นผู้รับภาระผลจากการชุมนุม พร้อมกับอ้างผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขที่แสดงความเป็นห่วงว่า เมืองจะไม่สามารถดูแลผู้ชุมนุมจำนวนมากในสถานที่ปิด รวมถึงความปลอดภัยของประธานาธิบดี การที่ประธานาธิบดีมาเยือนถือว่าเป็นเกียรติ แต่อยากให้เลื่อนไปก่อน เพราะช่วงเวลานี้การแพร่ระบาดยังร้ายแรงอยู่ คณะหาเสียงของทรัมป์ให้ผู้ที่จะมาร่วมการชุมนุมต้องลงชื่อยินยอมว่าจะไม่ฟ้องผู้จัดงานหากติดเชื้อไวรัสโคโรนาจากงานนี้.- สำนักข่าวไทย