เจนีวา 10 มิ.ย. – ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติเตือนว่า มาตรการในการต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 กำลังทำให้ภาวะการขาดแคลนอาหารในเกาหลีเหนือรุนแรงขึ้น
ผู้เสนอรายงานต่อสหประชาชาติด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ระบุว่า ภาวะขาดแคลนอาหารในเกาหลีเหนือกำลังทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากเกาหลีเหนือได้ปิดชายแดนกับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดมาตั้งแต่เดือนมกราคม และงดการเดินทางทั้งทางรถไฟ และเครื่องบิน เพื่อหยุดการแพร่กระจายของไวรัส
แถลงการณ์ระบุว่า การค้ากับจีนในเดือนมีนาคมและเมษายนลดลงมากกว่า 90% หลังการปิดชายแดน ทำให้ผู้คนตามแนวชายแดนของเกาหลีเหนือ ต้องเสียรายได้จากการค้าขาย และก่อนเกิดการระบาด ก็มีผู้คนกว่า 40% ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนอาหารอยู่แล้ว แต่ขณะนี้มีครอบครัวจำนวนมาก ที่ต้องประทังชีวิตด้วยข้าวโพดเท่านั้น และแม้แต่ทหารเองก็ยังประสบปัญหาจากการขาดแคลนอาหาร
แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า จำนวนผู้ไร้ที่อยู่อาศัย และราคายากำลังพุ่งสูงขึ้น และได้เสนอแนะให้ทบทวนเรื่องการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเสียใหม่ เพราะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คน และเป็นอุปสรรคต่อเกาหลีเหนือ ในการรับมือกับการระบาดของโรค.- สำนักข่าวไทย