นิวยอร์ก 6 มิ.ย.- คนในสหรัฐเตรียมชุมนุมใหญ่ทั่วประเทศอีกในวันเสาร์นี้ตามเวลาท้องถิ่นเพื่อประท้วงการเหยียดเชื้อชาติและความป่าเถื่อนของตำรวจเป็นสุดสัปดาห์ที่สอง หลังการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่ถูกตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดคอขณะควบคุมเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม
มูเรียล เบาเซอร์ นายกเทศมนตรีหญิงกรุงวอชิงตัน พรรคเดโมแครต ให้คนทาคำว่า Black Lives Matter สีเหลือง เต็มความกว้างถนนสายที่จะมุ่งไปยังทำเนียบขาวเป็นการต้อนรับผู้ประท้วง และเปลี่ยนชื่อพื้นที่หน้าทำเนียบขาวเป็น จัตุรัสแบล็คไลฟ์แมตเตอร์ หลังจากทวีตเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนกำลังเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและทหารที่ส่งมาเพิ่มในเมืองนี้
กรุงวอชิงตัน นครลอสแอนเจลิส และอีกหลายเมืองได้ยกเลิกคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถานยามวิกาลหรือเคอร์ฟิวแล้ว หลังจากการประท้วงเป็นไปอย่างสงบ จากเดิมที่เกิดความรุนแรง วางเพลิง และปล้นชิงร้านค้าในช่วงแรก แต่นครนิวยอร์กจะยังใช้เคอร์ฟิวต่อไปอีกสามคืน นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กยืนยันว่า ตำรวจใช้ความอดกลั้นกับผู้ประท้วง ทำให้บทบรรณาธิการฉบับวันศุกร์ของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์เรียกร้องให้เขาเปิดตาดูความจริงว่า ตำรวจกำลังกระทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือความควบคุมแล้ว หมายถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจใช้กระบองไล่หวดผู้ประท้วงอย่างสงบในย่านบร็องซ์ที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวเมื่อคืนวันพฤหัสบดี ผู้บัญชาการตำรวจนิวยอร์กเผยว่า ได้พักงานตำรวจสองนายแล้วหลังมีคลิปผลักผู้ประท้วงหญิงลงไปที่พื้นและถอดหน้ากากอนามัยของผู้ประท้วงชายก่อนฉีดสเปรย์พริกไทยใส่หน้า
ส่วนที่เมืองบัฟฟาโล รัฐเดียวกัน ตำรวจสองนายถูกพักงานโดยไม่ได้รับเงินเดือนหลังมีคลิปผลักผู้ประท้วงชายวัย 75 ปีล้มศีรษะแตก ก่อนหน้านั้นตำรวจแถลงว่าเขาสะดุดหกล้มเอง เช่นเดียวกับที่เมืองอินดีแอนาโปลิส รัฐอินดีแอนา ตำรวจสี่นายกำลังถูกสอบสวนเรื่องใช้กระบองรุมตีสตรีคนหนึ่งและยิงกระสุนพริกไทยใส่เธอเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย