ฮ่องกง 5 มิ.ย.- คนหนุ่มสาวชาวฮ่องกงที่เคยดูแคลนการจุดเทียนรำลึกเหตุปราบปรามผู้ประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่งของจีนปี 2532 เริ่มเห็นคุณค่า หลังจากจีนผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่จะใช้กับฮ่องกง
เว็บไซต์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่า ที่ผ่านมากลุ่มผู้จัดการจุดเทียนรำลึกในฮ่องกงถูกคนหนุ่มสาวดูแคลนว่าเป็นเพียงพิธีกรรม ไร้เดียงสา และเพ้อฝันที่จะเห็นจีนแผ่นดินใหญ่เปลี่ยนแปลงไปสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่หลังจากสภาประชาชนแห่งชาติจีนผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงเมื่อปลายเดือนก่อน หลายคนวิตกว่าอาจทำให้การจุดเทียนในฮ่องกงซึ่งเป็นแห่งเดียวในจีนที่ทำได้มาตลอด 30 ปีจะกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
นักศึกษาหญิงวัย 24 ปี เผยว่า เคยรู้สึกว่าการตะโกนคำขวัญในพิธีจุดเทียนที่สวนสาธารณะวิกตอเรียปาร์กทุกคืนวันที่ 4 มิถุนายนเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ปีนี้เธอชวนเพื่อนมาจุดเทียนที่ย่านมงก๊กเพราะเสรีภาพในการแสดงออกเป็นสิ่งที่ต้องสงวนรักษาไว้ ทางการห้ามจัดพิธีที่วิกตอเรียปาร์กในปีนี้โดยอ้างเรื่องรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือวิด-19
นอกจากรำลึกถึงผู้เสียชีวิตที่เทียนอันเหมินแล้ว ชาวฮ่องกงยังใช้โอกาสนี้สะท้อนความไม่พอใจรัฐบาลหลังเกิดการประท้วงนานร่วมปีเมื่อปีก่อน นักศึกษาชายวัย 22 ปี ซึ่งร่วมพิธีพร้อมกับถือธงมีภาพนายเอ็ดเวิร์ด เหลียงที่ถูกคุมขังข้อหายุยงให้เกิดจลาจลในย่านมงก๊กปี 2559 กล่าวว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติทำให้กลุ่มต่าง ๆ ในฮ่องกงละทิ้งความเห็นต่าง เสรีภาพและประชาธิปไตยที่คนในจีนแผ่นดินใหญ่ต่อสู้เมื่อปี 2532 ไม่ต่างจากที่ชาวฮ่องกงต่อสู้อยู่ในขณะนี้ หากไม่สานต่อการจุดเทียนรำลึก สิ่งที่คนหนุ่มสาวรุ่นเขาทำมาอาจถูกลืมไปภายในเวลาไม่กี่สิบปี พนักงานชายคนหนึ่งบอกว่า ไม่เคยร่วมงานรำลึกใด ๆ และไม่สนใจการเมืองด้วย แต่การประท้วงเมื่อปีก่อนทำให้เปลี่ยนใจ และเมื่อจีนออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติทำให้ยิ่งเป็นห่วงอนาคตของฮ่องกง เขาจะเล่าเรื่องการปราบปรามให้ลูกสาววัย 3 ขวบฟังเพื่อไม่ให้ความจริงเลือนหายไปกับกาลเวลา.- สำนักข่าวไทย