ซิดนีย์ 3 มิ.ย.- รัฐบาลออสเตรเลียคาดว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ หลังจากไตรมาสแรกปีนี้หดตัว และไตรมาสสองน่าจะหดตัวหนักกว่าเดิม เพราะผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19
นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า เศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้หดตัวร้อยละ 0.3 เป็นการหดตัวรายไตรมาสครั้งแรกนับจากวิกฤตการเงินโลกปี 2551-2552 เพราะมาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมโควิด-19 ยิ่งขยายผลกระทบจากภาวะแห้งแล้งยืดเยื้อและไฟป่ากินวงกว้าง และหลังจากที่เขาได้รับข้อมูลจากกระทรวงคลังที่คาดการณ์ว่าไตรมาสสองจะเป็นอย่างไร ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับจากปี 2534 เพราะเศรษฐกิจหดตัวสองไตรมาสติดต่อกัน ผลกระทบทางเศรษฐกิจจะร้ายแรงยิ่งกว่าปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรกของออสเตรเลียยังถือว่าดีมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศอย่างจีน ฝรั่งเศส อังกฤษ แสดงว่ามีความยืดหยุ่นอย่างเห็นได้ชัด สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมทางเศรษฐกิจและสาธารณสุขที่เกิดขึ้นในประเทศอื่น เพราะมาตรการที่ได้ร่วมกันดำเนินการทั้งประเทศ
ด้านนักเศรษฐศาสตร์ธนาคารแห่งชาติออสเตรเลียหรือเอ็นเอบี (NAB) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศคาดว่า เศรษฐกิจไตรมาสสองน่าจะหดตัวมากถึงร้อยละ 8.4 แต่การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เร็วกว่าที่คาดจะช่วยให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสสาม เพราะมีดัชนีหลายตัวบ่งชี้ว่าการจับจ่ายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ต้องรออีกระยะกว่าจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่เพราะพรมแดนประเทศต่าง ๆ ยังคงปิดอยู่ อีกทั้งต้องรอให้คนเชื่อมั่นในผลของมาตรการทางเศรษฐกิจและสาธารณสุขเสียก่อน เนื่องจากครัวเรือนอาจยังระมัดระวังเพราะมีคนตกงานจำนวนมากและตลาดแรงงานยังไม่ฟื้นตัว.-สำนักข่าวไทย