อเมริกา 1 มิ.ย.- เวลานี้ภูมิภาคลาตินอเมริกากำลังเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ของโรคโควิด-19 ซึ่งล่าสุดมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 1 ล้านคน โดยครึ่งหนึ่งอยู่ในบราซิล
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในภูมิภาคลาตินอเมริกันยังอยู่ในขั้นวิกฤติ เวลานี้จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนที่สูงมากในแต่ละวัน ล่าสุดทั่วภูมิภาคมียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 1.1 ล้านคน ในจำนวนนี้บราซิลมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดกว่า 510,000 คน ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ ขณะที่มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 30,000 คน มากเป็นอันดับ 4 ของโลก นอกจากต้องรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคแล้ว บราซิลยังเผชิญกับความวุ่นวายจากการชุมนุมประท้วงซึ่งมีทั้งฝ่ายต่อต้านและสนับสนุนประธานาธิบดีชาร์อี โบลโซนารู ซึ่งเจ้าตัวได้มาพบปะทักทายใกล้ชิดกับผู้สนับสนุนในกรุงบราซิเลียโดยไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย
ขณะที่เปรูเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ล่าสุดอยู่ที่กว่า 160,000 คน มากเป็นอันดับ 10 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 4,500 คน ประธานาธิบดีมาร์ติน วิซคารา เรียกร้องให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกโดยกล่าวว่าการที่พบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากเป็นผลมาจากการตรวจหาผู้ติดเชื้อที่สามารถทำได้มากเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งขณะนี้สามารถตรวจได้แล้วกว่า 1 ,010,000 คน จากประชากรทั้งประเทศราว 32 ล้านคน
ส่วนที่อาร์เจนตินามีการชุมนุมประท้วงในกรุงบัวโนสไอเรส เพื่อต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์หลังจากที่รัฐบาลใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคมาแล้ว 70 วัน ขณะที่มีผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 17,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงบัวโนสไอเรส โดยเฉพาะในย่านของผู้ที่มีรายได้น้อย ซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 539 คน.-สำนักข่าวไทย