ปารีส 29 พ.ค.- เรโนลต์ บริษัทยานยนต์ของฝรั่งเศสเผยว่า จะเลิกจ้างพนักงานเกือบ 15,000 คน ในจำนวนนี้กว่าหนึ่งในสามจะเป็นโรงงานในฝรั่งเศส นอกนั้นจะเป็นโรงงานในต่างประเทศ เพื่อรักษาสถานภาพบริษัทในช่วงที่ยอดจำหน่ายตกต่ำและคนหันไปสนใจรถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น
รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ของเรโนลต์แถลงวันนี้ว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนและความซับซ้อนในขณะนี้ โครงการเลิกจ้างคือสิ่งจำเป็นที่จะสร้างหลักประกันว่าบริษัทจะมีผลงานที่แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป บริษัทต้องการสร้างความประหยัดจากขนาดเพื่อฟื้นความสามารถในการมีกำไรและการพัฒนาทั้งในฝรั่งเศสและในต่างประเทศ
แผนการเลิกจ้างที่เรโนลต์แจ้งต่อตัวแทนพนักงานเมื่อวานนี้ระบุว่า ต้องการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจลง 2,000 ล้านยูโร (ราว 70,647 ล้านบาท) ภายใน 3 ปีข้างหน้า ด้วยการปิดหรือปรับโครงสร้างโรงงาน 4 แห่งในฝรั่งเศส ซึ่งจะทำให้มีคนถูกเลิกจ้างประมาณ 4,600 คน ส่วนอีก 10,000 คนจะเป็นการเลิกจ้างนอกประเทศ ปัจจุบันเรโนลต์มีพนักงานทั่วโลกประมาณ 180,000 คน กำลังการผลิตของเรโนลต์จะลดลงจากปีละ 4 ล้านคันในปัจจุบันเหลือปีละ 3.3 ล้านคันในช่วง 4 ปีข้างหน้า ขณะที่แผนการขยายธุรกิจในโมร็อกโกและโรมาเนียถูกระงับแล้ว เช่นเดียวกับแผนการขยายธุรกิจในรัสเซียที่อยู่ระหว่างการทบทวน
ธุรกิจของเรโนลต์สั่นคลอนเมื่อนายคาร์ลอส กอส์น อดีตผู้บริหารถูกทางการญี่ปุ่นจับกุมกะทันหันในปี 2561 เพราะเผยให้เห็นถึงรอยร้าวลึกกับพันธมิตรยานยนต์ญี่ปุ่นสองแห่งอย่างนิสสันและมิตซูบิชิ ปีที่แล้วเรโนลต์ขาดทุนประจำปีเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่ 141 ล้านยูโร (ราว 4,980 ล้านบาท) ขณะนี้กำลังเจรจาเงื่อนไขเงินกู้ช่วยเหลือมูลค่า 5,000 ล้านยูโร (ราว 176,618 ล้านบาท) กับรัฐบาลฝรั่งเศสที่ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 15.- สำนักข่าวไทย