จาการ์ตา 29 พ.ค.- ทางการอินโดนีเซียใช้วิธีประจานผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัยและฝ่าฝืนมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19
ทหารอินโดนีเซีย 340,000 นายกระจายกำลังตามเมืองต่าง ๆ ตรวจตราการใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ขณะที่ทางการระดับจังหวัดใช้การรณรงค์ที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่ใช้การประจานให้ได้อาย ตำรวจจังหวัดเบงกูลู ทางตะวันตกของประเทศส่งกำลังออกตรวจตราผู้ฝ่าฝืน หากพบว่าไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือไม่รักษาระยะห่างทางสังคมจะบังคับให้แขวนป้ายประกาศว่าจะปฏิบัติตามในครั้งหน้า พร้อมกับถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อประจานให้ได้อาย เจ้าหน้าที่เผยว่า คนในจังหวัดยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามระเบียบ โดยเฉพาะเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยและการรวมตัวในที่สาธารณะเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญต่อตัวเองและคนในครอบครัว ชาวประมงคนหนึ่งถูกลงโทษหลังขึ้นฝั่งเพราะไม่สวมหน้ากากอนามัยขณะล่องเรือหาปลาตามลำพังโอดครวญว่า เป็นเรื่องตลกที่จะสวมหน้ากากอนามัยกลางทะเล และก็ไม่มีระเบียบที่ว่าด้วย หากมีก็จะทำตามแน่นอน
ส่วนที่กรุงจาการ์ตาประกาศระเบียบใหม่ว่า ผู้ฝ่าฝืนมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมจะถูกบังคับทำงานบริการสาธารณะ เช่น ล้างห้องน้ำ และต้องสวมเสื้อกั๊กติดป้ายว่าเป็นผู้ฝ่าฝืนระเบียบด้วย ขณะที่จังหวัดอาเจะห์ บนเกาะสุมาตราที่เคร่งศาสนา ผู้ฝ่าฝืนระเบียบจะถูกบังคับให้ท่องบทสวดในคัมภีร์อัลกุรอ่าน ด้านอำเภอสราเกน บนเกาะชวา ทางการนำผู้ฝ่าฝืนไปขังไว้ในบ้านร้างที่เชื่อกันว่ามีผีสิง อินโดนีเซียมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมราว 24,000 คน เสียชีวิต 1,496 คน นักวิจัยเชื่อว่า ตัวเลขที่แท้จริงสูงกว่านี้มาก เพราะประชากรกว่า 260 ล้านคน ได้รับการตรวจหาเชื้อในอัตราที่ต่ำมาก.- สำนักข่าวไทย