วอชิงตัน 28 พ.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ขู่จะปิดสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากทวีต 2 ข้อความของเขาถูกทวิตเตอร์ทำเครื่องหมายว่า ทำให้เข้าใจผิด เป็นปัญหาใหม่ของสื่อสังคมออนไลน์ที่พยายามจัดการกับการเผยแพร่ข้อมูลไม่ถูกต้องทางการเมืองช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีนี้
ทวิตเตอร์ทำเครื่องหมายดังกล่าวกับทวีตของทรัมป์เป็นครั้งแรกเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐ เนื้อความทวีตระบุว่าการลงคะแนนทางไปรษณีย์จะทำให้เกิดการโกงเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงความไม่พอใจทวิตเตอร์และขู่จะควบคุมเข้มงวดหรือถึงขั้นปิดสื่อสังคมออนไลน์
สตีเฟน ลิฟวิงสตัน ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูล ประชาธิปไตยและการเมือง มหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตันมองว่า คำขู่ของทรัมป์จะเป็นปัญหาให้แก่ทวิตเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ คาดว่าหลังจากนี้ทวิตเตอร์จะปรับนโยบายเรื่องข้อมูลทำให้เข้าใจผิดให้มีความเจาะจงในประเด็นเฉพาะมากขึ้น เช่น กระบวนการเลือกตั้ง การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา อย่างไรก็ดี แม้ทวิตเตอร์รับปากว่าจะส่งเสริมการสื่อสารที่เป็นประโยชน์ด้วยการคัดกรองเนื้อหาหลอกลวงและเป็นพิษ แต่เป็นที่รู้กันดีว่าสื่อสังคมออนไลน์ชอบย้ำเรื่องสุดโต่งเพราะเรียกความสนใจของผู้ใช้งานและขายโฆษณาได้มากขึ้น
ขณะที่มิเชลล์ อามาซีน อาจารย์การสื่อสารทางการเมือง มหาวิทยาลัยบอสตันตั้งข้อสงสัยว่า การกระทำของทวิตเตอร์จะมีผลเพียงใด เพราะทวิตเตอร์ยังไม่สามารถสร้างมาตรฐานเดียวกับสื่อหลัก ทวิตเตอร์ไม่ใช่แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ ผลการศึกษาหลายชิ้นชี้ว่า คนที่รับข่าวสารจากสื่อสังคมออนไลน์เป็นหลักมักได้รับข่าวไม่ถูกต้องมากกว่าคนรับข่าวจากสื่อหลัก ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลายคนชี้ว่า คำขู่ของทรัมป์บิดเบือนสิ่งที่รัฐธรรมนูญรับรองสิทธิเสีภาพในการแสดงออกเพื่อป้องกันการถูกรัฐบาลควบคุมโดยตรง
ด้านมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของเฟซบุ๊กให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ว่า มีนโยบายตรวจสอบความจริงที่แตกต่างจากทวิตเตอร์ เฟซบุ๊กไม่ควรทำหน้าที่ชี้ขาดความจริงของทุกเรื่องที่คนพูดถึงในโลกออนไลน์ บริษัทเอกชนอื่น ๆ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ก็ไม่ควรทำหน้าที่ดังกล่าว.- สำนักข่าวไทย