กัวลาลัมเปอร์ 22 พ.ค.- มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วัย 94 ปี เผยว่า ใช้ช่วงเวลาปิดเมืองเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ออกกำลังกาย พบปะผู้คนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และเผยบทเรียนจากวิกฤตครั้งนี้
มหาเธร์ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีผ่านระบบวิดีโอจากสำนักงานที่กรุงปุตราจายา เมืองหลวงราชการของมาเลเซียว่า ใช้เวลาช่วงปิดเมืองออกกำลังกายด้วยการวิ่งบนลู่วิ่งและปั่นจักรยานสลับวันกัน ผู้ที่ต้องการพบเขาเป็นการส่วนตัวต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และอยู่ห่างจากเขา ส่วนเขาเองใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นช่องทางพบปะสนทนากับประชาชนอยู่เสมอ แต่ก็ต้องให้ลูกหลานช่วยเพราะไม่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี พร้อมกับเตือนว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาจเป็นอันตรายได้หากไปอยู่มือคนไม่ดี เหมือนมีดที่ใช้แกะสลักสร้างสิ่งสวยงาม แต่ก็เป็นอาวุธฆ่าคนได้ในเวลาเดียวกัน
อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียปี 2524-2546 และ 2561-2563 พูดถึงบทเรียนที่ได้จากโควิด-19 ว่า ควรมีความพร้อมในการรับมือกับไวรัสมากกว่านี้ ต้องรู้วิธีรับมือไม่ใช่แค่การหาทางผลิตวัคซีน แต่ต้องรู้ว่าจะต้องทำอะไร เช่น การปิดเมืองอย่างที่ทำอยู่ เพราะสถานการณ์จะยืดเยื้อ ต่อให้มีวัคซีนแล้วก็ต้องใช้เวลาทดสอบอีกราว 6 เดือน และใช้เวลาอีกนานกว่าจะผลิตได้อย่างเพียงพอ นานาชาติควรเลิกนำเงินไปสร้างอาวุธ แล้วมาทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนายา แล้วโลกจะมีความปลอดภัยมากขึ้น มหาเธร์ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์โลกตะวันตกมาโดยตลอดมองว่า โควิด-19 แพร่ระบาดทำให้ประเทศพัฒนาแล้วด้อยลงไปทันที อัตตาและความยโสทำให้คิดว่า จะมีแต่ประเทศกำลังพัฒนาและด้อยพัฒนาที่เดือดร้อน แต่ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่ามาตรฐานสาธารณสุขของประเทศพัฒนาแล้วต่ำมาก ประเทศยากจนกลับทำได้ดีกว่าประเทศร่ำรวย
อดีตผู้นำมาเลเซียที่ลาออกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เพราะเกิดการแย่งชิงอำนาจภายในรัฐบาลผสมของเขาทำนายว่า มีปัญหามากมายรออยู่ข้างหน้า เพราะมาเลเซียมีภาระหนี้สินมหาศาลตั้งแต่ยังไม่มีโควิด-19 มาเลเซียเหลือเงินน้อยลงแต่ช่วงเวลานี้ต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อช่วยประชาชนที่กำลังลำบาก ไม่มีรายได้เลยแม้แต่แดงเดียว มาเลเซียปิดเมืองมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมและเริ่มผ่อนคลายเมื่อต้นเดือนนี้ ขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมราว 7,000 คน เสียชีวิต 100 คน.-สำนักข่าวไทย