รัฐในออสเตรเลียยังตกลงกันไม่ได้เรื่องเปิดพรมแดนในประเทศ

บริสเบน 21 พ.ค.- รัฐในออสเตรเลียยังไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องเปิดพรมแดนให้กัน แม้ว่ายอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศลดลงมากแล้วก็ตาม 


รัฐและดินแดนในออสเตรเลียมีอำนาจในการดำเนินมาตรการควบคุมโควิด-19 เอง และหลายครั้งมักไม่ใส่ใจแนวทางของรัฐบาลกลาง เช่นเดียวกับรัฐในสหรัฐ เยอรมนี และอินเดีย หลายรัฐยังไม่ยอมให้คนจากสองเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศอย่างนครซิดนีย์ของรัฐนิวเซาท์เวลส์และเมืองเมลเบิร์นของรัฐวิกตอเรียเดินทางเข้าตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม มีเสียงวิจารณ์ว่า การใช้มาตรการจำกัดที่ไม่อิงข้อมูลทางการแพทย์อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจประเทศ เพราะทำให้ไม่สามารถเริ่มต้นการค้าและการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มตัวทั้งประเทศ นอกจากนี้ยังถูกนำไปหาผลประโยชน์ทางการเมืองด้วยการกล่าวโทษพรรคคู่แข่งในรัฐอื่น 

นางแอนนาสตาเชีย ปาลาสชุค มุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์สายกลางซ้ายที่จะต้องสู้ศึกเลือกตั้งอีกสมัยในปลายปีนี้ ยืนกรานไม่ยอมเปิดพรมแดนให้รัฐนิวเซาท์เวลส์ที่อยู่ติดกันทางใต้ว่า จะไม่ยอมให้รัฐที่รับมือกับโควิด-19 ได้แย่ที่สุดในออสเตรเลียมาสั่งสอน และขอให้รัฐนิวเซาท์เวลส์ขจัดการแพร่เชื้อในชุมชนให้ได้เสียก่อน ด้านนางแกลดีส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์สายกลางขวาโต้ว่า ไม่สมควรที่จะคงมาตรการปิดพรมแดนต่อไปเป็นเวลานาน เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ในฐานะที่เป็นประเทศเดียวกันคือ การทำให้เกิดการจ้างงานและยับยั้งไม่ให้ทุกคนตกหน้าผาทางเศรษฐกิจภายในเวลาอันสั้น อนึ่ง รัฐนิวเซาท์เวลส์มีผู้ป่วยโควิด-19 กว่า 3,000 คนจากทั้งหมด 7,000 คนทั่วประเทศ และมีผู้เสียชีวิตเกือบครึ่งหนึ่งจาก 100 คนทั่วประเทศ แต่ยอดผู้ป่วยใหม่เหลือเพียงวันละ  2 คนแล้ว.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย