สหรัฐ 19 พ.ค.- บริษัทผู้ผลิตยาในสหรัฐ มีความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ขณะที่มีรายงานว่าผู้นำสหรัฐกินยาต้านมาลาเรียเพื่อป้องกันโควิด-19
สหรัฐมีความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เมื่อบริษัทโมเดิร์นนา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยาในรัฐแมสซาชูเซตส์มีความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีน ล่าสุดพบว่ามีการสร้างสารภูมิคุ้นกันในกลุ่มอาสาสมัครซึ่งมีสุขภาพดีที่เข้ารับการทดสอบฉีดวัคซีนของบริษัทไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา การค้นพบดังกล่าวทำให้มีความหวังว่าจะมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกในเวลานี้ และส่งผลให้หุ้นของโมเดิร์นนาพุ่งขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และยังทำให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นถึง 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบ 10 สัปดาห์
อย่างไรก็ดี ตราบใดยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หรือวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ มาตรการล็อกดาวน์ การเว้นระยะห่างทางสังคมยังคงเป็นแนวทางหลักในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรค ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่าการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ยังคงมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ในขณะที่รัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐ เริ่มเปิดเศรษฐกิจไปแล้วเกือบทั่วประเทศ แต่มีเพียง 13 รัฐเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ด้านความปลอดภัยของรัฐบาลกลาง
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าตลอด 10 วันที่ผ่านมาเขากินยาไฮดร็อกซีคลอโรควีน ซึ่งเป็นยาต้านมาลาเรียร่วมกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธาตุสังกะสี เพราะเขาเชื่อว่าดีต่อสุขภาพและจะไม่ทำให้ป่วยเป็นโรคโควิด-19 นายทรัมป์บอกว่าแพทย์ไม่ได้แนะนำให้เขากินยานี้ แต่เขาขอยานี้มาจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว
ขณะที่สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ เคยมีคำเตือนว่าแพทย์ไม่ควรใช้ยานี้รักษาโรคโควิด-19 เนื่องจากไม่ได้ผลและทำให้เกิดอาการข้างเคียงในผู้ป่วยบางรายได้
ส่วนท่าทีของทรัมป์ต่อองค์การอนามัยโลกล่าสุดนายทรัมป์ขู่ว่าจะตัดเงินช่วยเหลือแก่องค์การอนามัยโลกเป็นการถาวรจนกว่าจะมีการปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ สหรัฐระงับเงินช่วยไปเมื่อกลางเดือนที่แล้วโดยกล่าวหาว่าองค์การอนามัยโลกเข้าข้างจีนมากเกินไป.-สำนักข่าวไทย