กัวลาลัมเปอร์ 16 พ.ค.- มาเลเซียสามารถควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด จากที่เคยรุนแรงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนเริ่มเปิดเมืองได้แล้ว แต่หลายคนมองว่าเป็นผลงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ทำงานได้ยอดเยี่ยม ไม่ใช่รัฐบาล
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ของฮ่องกงรายงานว่า มาเลเซียพบผู้ป่วยใหม่เมื่อวานนี้เพียง 36 คน เทียบกับช่วงเดือนมีนาคมที่พบวันละหลายร้อยคน ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 6,855 คน เสียชีวิต 112 คน คิดเป็นร้อยละ 1.63 มาตรการปิดเมืองที่ใช้มาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมจะใช้จนถึงต้นเดือนหน้า ประชาชนเตรียมกลับไปชีวิตตามความปรกติใหม่ (New Normal) และยกย่อง นพ.นูร์ ฮิชัม บิน อับดุลลาห์ อธิบดีกรมสุขภาพในฐานะหัวหน้าคณะรับมือโควิด-19 เยี่ยงวีรบุรุษ ขณะที่รัฐบาลนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยาสซินถูกมองว่าไม่มีผลงาน
นักรัฐศาสตร์ สถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เจฟฟรีย์เชียชี้ว่า ความสำเร็จของมาเลเซียส่วนใหญ่เป็นเพราะความสามารถของนักวิชาการในกระทรวงสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์แนวหน้า ประกอบกับประชาชนให้ความร่วมมืออย่างดี ขณะที่รัฐบาลผสมดูเหมือนมือสมัครเล่น ไร้ประสบการณ์ อีกทั้งยังมีความขัดแย้งภายใน ด้านนักวิเคราะห์ของสถาบันวิจัยคาซานาห์ชี้ว่า การที่ทางการบุกกวาดจับแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายโดยอ้างเรื่องโควิด-19 นอกจากยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย ยังทำให้การคัดกรองและติดตามผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยทำได้ยากขึ้น ปกติคนกลุ่มนี้ไม่สามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพอยู่แล้วเพราะไม่มีเงิน กลัวถูกจับและเนรเทศ
ด้านแพทย์โรคทางเดินหายใจและรองคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติมาเลเซียเตือนว่า รัฐบาลควรมีแผนฉุกเฉินที่สามารถดำเนินการได้ทันทีในกรณีที่สถานการณ์ถอยหลัง จากการอนุญาตให้เปิดธุรกิจและให้คนรวมกลุ่มในที่สาธารณะได้สูงสุด 20 คน จะต้องจับตาอย่างเคร่งครัดเรื่องกระบวนการดำเนินงานตามมาตรฐานและการรักษาระยะห่างทางสังคม และต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการระบาดระลอกสามด้วยการตรวจหาเชื้อตามชุมชนอย่างเจาะจงและทั่วถึง ขณะที่ประชาชนทุกคนต้องตระหนักว่า ถึงเวลาที่จะได้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมตามที่ได้รับโอกาสอันสุดพิเศษนี้.-สำนักข่าวไทย