fbpx

เวียดนามทุ่มช่วยนักบินอังกฤษไม่ให้เป็นผู้เสียชีวิตเพราะโควิด-19 รายแรกของประเทศ

ฮานอย 14 พ.ค.- เวียดนามกำลังทุ่มเทความพยายามทุกอย่างช่วยชีวิตนักบินชาวอังกฤษที่กำลังป่วยหนักเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ไม่ให้เป็นผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศ 


จนถึงขณะนี้เวียดนามพบผู้ป่วยโควิด-19 เพียง 288 คน และยังไม่มีผู้เสียชีวิตเลย เพราะตรวจหาเชื้ออย่างทั่วถึงและใช้มาตรการกักตัวตามคำสั่งรัฐบาลกลาง สื่อทางการรายงานว่า ทางการกำลังทุ่มเททรัพยากรทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตชายวัย 43 ปี ที่ถูกเรียกว่าผู้ป่วยรายที่ 91 เป็นนักบินชาวอังกฤษที่ทำงานกับเวียดนามแอร์ไลน์ สายการบินแห่งชาติของเวียดนาม เขาติดเชื้อจากบาร์ในนครโฮจิมินห์ ทางตอนใต้ของประเทศเมื่อกลางเดือนมีนาคม ทางการตรวจหาเชื้อกับคนกว่า 4,000 คนที่เกี่ยวโยงกับการระบาดที่บาร์ดังกล่าว และพบผู้ติดเชื้อ 18 คน ขณะนี้หายดีหมดแล้ว เหลือเพียงนักบินคนนี้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจมานานกว่าเดือนแล้ว และอาการทรุดหนักลง ปอดของเขาทำงานเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น  

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลชั้นนำเมื่อวันอังคารได้ข้อสรุปว่า วิธีเดียวที่จะช่วยชีวิตเขาได้คือการปลูกถ่ายปอด ผู้ป่วยรายนี้เป็นที่สนใจของคนทั้งเวียดนาม สื่อทางการรายงานว่า วันนี้มีผู้เสนอบริจาคปอดให้เขาถึง 10 คน หนึ่งในนั้นเป็นทหารผ่านศึกวัย 70 ปี ศูนย์ประสานงานการปลูกถ่ายอวัยวะมนุษย์แห่งชาติเผยว่า ซาบซึ้งใจมากที่ผู้เสนอตัวมีความตั้งใจดี แต่ระเบียบปัจจุบันไม่อนุญาตให้ปลูกถ่ายปอดจากผู้บริจาคที่ยังมีชีวิต รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขเวียดนามเผยเมื่อเดือนก่อนว่า ทางการนำเข้ายาพิเศษจากต่างประเทศมารักษาอาการลิ่มเลือดให้เขา แต่ไม่ได้ผล สำนักข่าวเวียดนามนิวส์รายงานว่า ทางการใช้เงินไปแล้วกว่า 5,000 ล้านด่ง (เกือบ 7 ล้านบาท) เพื่อพยายามช่วยชีวิตเขา สื่อทางการจีนเคยรายงานเมื่อเดือนมีนาคมว่า จีนประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายปอดทั้งสองข้างให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 รายหนึ่ง 


รอยเตอร์มองว่า เวียดนามพยายามใช้เรื่องที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมโรคโควิด-19 ประชาสัมพันธ์ว่าเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยในการทำธุรกิจในช่วงที่ผู้ผลิตนานาชาติกำลังหาทางกระจายห่วงโซ่อุปทานไม่ให้พึ่งพาจีนเพียงประเทศเดียว เพราะการผลิตทุกอย่างหยุดชะงักไปหมดเมื่อจีนเกิดปัญหา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง