ดูไบ 14 พ.ค. – ผู้บริหารสูงสุดของท่าอากาศยานนานาชาติดูไบระบุว่า การตรวจวัดอุุณหภูมิ และการสวมหน้ากากอนามัย คือนิวนอร์มัลหรือความปรกติใหม่สำหรับการเดินทางทางอากาศ
นายพอล กริฟฟิธส์ ซีอีโอของท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในโลก กล่าวว่า การตรวจวัดอุณหภูมิและการสวมหน้ากากอนามัยจะกลายเป็นภาพที่พบเห็นโดยทั่วไปตามสนามบิน เพื่อลดการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พร้อมระบุว่า การเว้นระยะห่างทางสังคมอาจทำให้การเดินทางโดยเครื่องบินมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
นายกริฟฟิธส์เตือนว่า การเว้นระยะห่างทางสังคมจะจำกัดการเติบโตของธุรกิจเมื่อความต้องการเดินทางกลับมา เพราะอาจต้องเพิ่มค่าตั๋วเครื่องบิน หากสายการบินถูกจำกัดให้ขายตั๋วน้อยลงเพื่อเว้นที่นั่งว่าง แต่ทั้งนี้จนกว่าจะมีวัคซีน หรือการรักษา หรือวิธีการที่เชื่อถือได้ และรวดเร็ว ในการตรวจหาไวรัส ก็ยังจำเป็นต้องมีการบังคับใช้มาตรการเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อต่อไป
ซีอีโอของท่าอากาศยานนานาชาติดูไบระบุว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เมื่อใดการเดินทางทั่วโลกจึงจะฟื้นตัวจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขณะเดียวกันก็ยังขึ้นอยู่กับการยกเลิกการปิดเมืองของแต่ละประเทศด้วย โดยประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสได้แล้ว และตกลงที่จะเปิดพรมแดนต่อกัน มีแนวโน้มที่จะผลักดันให้เกิดความต้องการในการเดินทางทางอากาศในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ไม่สามารถบอกได้เลยว่า เมื่อใดการเดินทางจึงจะกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด.- สำนักข่าวไทย