อังกฤษ 6 พ.ค.- อังกฤษมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากสุดในทวีปยุโรป และมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐ ขณะที่นักวิจัยพบหลักฐานไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มแพร่ระบาดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
ขณะนี้อังกฤษมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จำนวน 29,427 คน แซงหน้าอิตาลี ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 29,315 คน ทำให้อังกฤษกลายเป็นชาติที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอัน 2 ของโลกรองจากสหรัฐ และมากที่สุดในทวีปยุโรป แต่เมื่อเทียบจำนวนประชากรแล้ว อังกฤษยังมีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าอิตาลี สเปน และเบลเยียม นายโดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศ บอกว่า ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของอังกฤษชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ขณะเดียวกันศาสตราจารย์ฟรังซัวส์ บัลลูซ์ แห่งสถาบันพันธุศาสตร์ มหาวิทยาลัยลอนดอน เปิดเผยผลการศึกษาจากตัวอย่างผู้ติดเชื้อ 7,600 รายจากทั่วโลกพบว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เริ่มระบาดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ไม่ได้ติดเชื้อกันอย่างง่ายๆ และอาการก็ไม่รุนแรง แต่เมื่อมีผู้ติดเชื้อเป็นคนแรกก็จะเกิดการแพร่ระบาดออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่า โควิด-19 หรือที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า ซาร์ส-โคฟ-2 แพร่ระบาดมานานก่อนที่จะถูกค้นพบ
นักวิทยาศาสตร์ทั่วไปเชื่อกันว่า ไวรัสโคโรนา 2019 อยู่ที่ตัวค้างคาว และแพร่ไปติดสัตว์ชนิดอื่น ก่อนที่จะกระโดดมาติดมนุษย์ ดร.บัลลูซ์ เชื่อว่า โควิด-19 เพิ่งจะติดมนุษย์เป็นรายแรกในช่วงปลายปีที่แล้ว ส่วนการกลายพันธุ์ของไวรัสนั้น เป็นเรื่องธรรมดา และไม่มีหลักฐานใดๆ บ่งชี้ว่าไวรัสชนิดนี้กลายพันธุ์ช้าหรือเร็วกว่าไวรัสสายพันธุ์อื่น รายงานเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของโควิด-19 เป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่คิดค้นยาหรือวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา 2019 โดยเฉพาะวัคซีนนั้น จะต้องค้นพบให้ได้ว่าเมื่อมีการกลายพันธุ์แล้ว ส่วนใดของเชื้อไวรัสบ้างที่คงเดิมและไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป.-สำนักข่าวไทย