ลอนดอน 1 พ.ค.- ผลสำรวจวันนี้พบว่า ชาวอังกฤษส่วนใหญ่ยังไม่อยากออกจากบ้านต่อให้รัฐบาลสั่งผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองก็ตาม เพราะกลัวติดเชื้อไวรัสที่ทำเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลังจากสหราชอาณาจักรมีผู้ป่วยมากเป็นอันดับสี่ของโลก 171,253 คน เสียชีวิตมากเป็นอันดับสามของโลก 26,771 คน รองจากสหรัฐและอิตาลี
อิปซอสโมริเผยผลสำรวจว่า ผู้ตอบกว่าร้อยละ 60 ไม่สบายใจที่จะไปใช้บริการบาร์ ร้านอาหาร รถโดยสารสาธารณะ หรือสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เช่น การแข่งกีฬา ร้อยละ 40 ลังเลใจที่จะไปร้านค้าหรือให้บุตรหลานไปโรงเรียน และร้อยละ 30 กังวลที่จะไปทำงานหรือพบปะเพื่อนฝูง ผู้ตอบส่วนใหญ่เผยว่า ปฏิบัติตามมาตรการปิดเมืองไม่ใช่เพราะเชื่อฟังรัฐบาล แต่เพราะกลัวติดเชื้อไวรัส
นักสถิติของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เผยกับสถานีวิทยุบรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ว่า เป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่งเพราะมหาวิทยาลัยก็ได้ผลสำรวจคล้ายกันว่า คนในสหราชอาณาจักรกังวลเป็นพิเศษที่จะออกจากบ้าน หากเป็นคนสูงอายุและกลุ่มเสี่ยงก็ถือว่าสมเหตุสมผล แต่กลายเป็นว่าคนจำนวนมากกังวลทั้งเรื่องจะติดเชื้อและเรื่องอันตรายที่จะเกิดขึ้นหากติดเชื้อแล้ว เขาเห็นว่ารัฐบาลจำเป็นต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน จำแนกประชาชนออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ตามความเสี่ยง และส่งเสริมให้กลุ่มเสี่ยงน้อยที่สุดออกมาใช้ชีวิตตามปกติ
อังกฤษปิดเมืองมาตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันที่เพิ่งกลับมาทำงานเมื่อวันจันทร์หลังจากติดเชื้อโควิด-19 เมื่อต้นเดือนก่อนและพักฟื้นอยู่หลายสัปดาห์เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ประเทศผ่านจุดสูงสุดของการระบาดแล้ว เขาเตรียมประกาศในสัปดาห์หน้าเรื่องแผนการทยอยผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองเพื่อให้ทุกคนสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย