ลอนดอน 1 พ.ค.- โรคโควิด-19 ทำให้มหาวิทยาลัยในอังกฤษ สูญเสียรายได้อย่างหนัก เพราะถูกยกเลิกการจัดประชุมทางวิชาการและรายได้จากนักศึกษาต่างชาติที่จ่ายแพงกว่านักศึกษาในประเทศ
สถาบันนโยบายการศึกษาขั้นสูงเผยว่า มหาวิทยาลัยในอังกฤษกำลังถูกกดดันอย่างสาหัสจากวิกฤตขณะนี้ ขณะที่ยูนิเวอร์ซิตียูเค องค์กรตัวแทนมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรเผยว่า การปิดเมืองทำให้มหาวิทยาลัยต้องปิดตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม สร้างความสูญเสีย 790 ล้านปอนด์ (ราว 32,250 ล้านบาท) สถานการณ์ในปีการศึกษาหน้าอาจเลวร้ายว่านี้ หากนักศึกษาต่างชาติที่จ่ายค่าเล่าเรียนสูงกว่านักศึกษาในประเทศไม่กลับมาเรียน ผลกระทบจะรุนแรงมาก ก่อนหน้านี้องค์กรแห่งนี้ได้ขอให้รัฐบาลจัดสรรความช่วยเหลือมูลค่า 2,000 ล้านปอนด์ (ราว 81,660 ล้านบาท) ไม่เช่นนั้นบางสถาบันจำเป็นต้องลดค่าจ่ายครั้งใหญ่หรืออาจถึงขั้นต้องปิดตัว ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการแถลงว่า มหาวิทยาลัยมีสิทธิเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือฉุกเฉินของรัฐบาล เช่น ให้รัฐบาลช่วยจ่ายเงินเดือนเพื่อเลี่ยงการเลิกจ้าง
อังกฤษเป็นจุดหมายยอดนิยมอันดับสองของนักศึกษาต่างชาติ รองจากสหรัฐ นักศึกษาหนึ่งในห้าคนในปีการศึกษา 2561-2562 เป็นชาวต่างชาติ โดยมีทั้งหมด 485,645 คน ในจำนวนนี้เกือบ 343,000 คนมาจากนอกสหภาพยุโรปหรืออียู โดยมาจากจีนถึง 120,385 คน นักศึกษาต่างชาติต้องจ่ายเล่าเรียนสองเท่าของนักศึกษาอังกฤษหรืออียูที่จ่ายปีละ 9,250 ปอนด์ (ราว 377,635 บาท) บริษัทที่ปรึกษาลอนดอนอีโคโนมิกส์ออกรายงานเมื่อเดือนเมษายนคาดการณ์ว่า ปีการศึกษา 2563-2564 จะมีนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนชั้นปีหนึ่งลดลงร้อยละ 47 จากปี 2561-2562 กระทบค่าเล่าเรียนที่ปกติแล้วมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรได้รับปีละ 6,000 ล้านปอนด์ (ราว 244,870 ล้านบาท) ซึ่งจะมีผลต่อการจ้างงานโดยตรง 30,000 ตำแหน่ง และโดยอ้อมอีกกว่า 32,000 ตำแหน่ง บางวิชาอาจต้องยกเลิกเพราะอยู่ได้ด้วยนักศึกษาต่างชาติเท่านั้น งานวิจัยจะถูกกระทบเพราะทุนวิจัยหนึ่งในสี่มาจากค่าเล่าเรียนของนักศึกษาต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย