ฝรั่งเศส 29 เม.ย.- ฝรั่งเศสเตรียมผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่นับตั้งแต่เริ่มล็อกดาวน์ปิดเมืองตั้งแต่เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
แม้ว่าฝรั่งเศส ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ และเสียชีวิตในแต่วันเพิ่มขึ้นอีกมาก นายกรัฐมนตรีเอดัว ฟิลิป ของฝรั่งเศส ระบุ มาตรการล็อกดาวน์หยุดการเคลื่อนไหวของประชาชนเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สามารถรักษาชีวิตชาวฝรั่งเศสไว้ได้จำนวนมาก แต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะผ่อนคลายมาตรการเหล่านั้น เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยรัฐบาลจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม
อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่า การติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หากประเทศมีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไป นอกจากนี้ ฝรั่งเศสจะไม่ยุติมาตรการล็อกดาวน์จนกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงไปอยู่ที่ต่ำกว่า 3,000 คนต่อวัน ขณะเดียวกัน ชาวฝรั่งเศสจะต้องปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตแบบใหม่ ที่จะต้องอยู่กับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และหลังจากวันที่ 11 พฤษภาคม ฝรั่งเศสจะตรวจทดสอบการติดเชื้อให้ได้ 700,000 คนต่อสัปดาห์ และจะมีการเปิดโรงเรียนอนุบาลและประถม ส่วนโรงเรียนระดับมัธยมในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 น้อย ก็จะให้เปิดเรียนในวันที่ 18 พฤษภาคม ประชาชนต้องสวมหน้ากากทุกครั้งที่ใช้บริการขนส่งมวลชน ขณะที่รถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงปารีสจะให้บริการเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70 ธุรกิจต่างๆ ก็สามารถเปิดกิจการได้อีกครั้ง และมีสิทธิที่จะห้ามลูกค้าไม่ให้เข้าร้าน หากไม่สวมหน้ากาก
ส่วนการชุมนุมของประชาชน กระทำได้แต่จะต้องไม่เกิน 10 คน ล่าสุด รัฐสภาฝรั่งเศสลงมติ 368 ต่อ 100 เสียง สนับสนุนแผนผ่อนคลายการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ฝรั่งเศสจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่ดำเนินมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 11 เดือนหน้า ฝรั่งเศสมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่กว่า 23,000 คน มากเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐ อิตาลี และสเปน นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้ออีกกว่า 165,000 คน.-สำนักข่าวไทย