ชี้โควิด-19 ในอู่ฮั่นระบาดช่วงต้นเร็วกว่าที่คิดสองเท่า

นิวเม็กซิโก 20 เม.ย.- ผลการศึกษาใหม่ในสหรัฐคาดว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ระบาดช่วงต้นในเมืองอู่ฮั่นของจีนอาจเร็วกว่าที่คิดไว้ถึงสองเท่า แต่เป็นเพราะความโกลาหลทำให้ได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนและเกิดภาพบิดเบือน


ห้องทดลองปฏิบัติการแห่งชาติลอสอาลามอส รัฐนิวเม็กซิโกเผยในวารสารโรคติดเชื้ออุบัติใหม่เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ในอู่ฮั่นแพร่เชื้อให้คนอื่นอีกเฉลี่ย 5.7 คน จากเดิมที่นักระบาดวิทยาเชื่อกันว่าแพร่อีก 2-3 คน ตัวเลขที่แท้จริงจะเป็นประโยชน์ต่อการจำกัดการแพร่เชื้อและกำหนดยุทธศาสตร์การให้วัคซีนป้องกัน ผลการวิจัยชี้ว่า การขาดสารเคมีที่ใช้วินิจฉัยโรคในช่วงต้นของการระบาด ความเข้มข้นในการเฝ้าระวังและตรวจพบผู้ป่วยที่เปลี่ยนแปลงไป และระบบสาธารณสุขที่รับมือไม่ไหว สร้างความสับสนให้แก่การนำข้อมูลมาประเมินการขยายตัวของการระบาด 

คณะนักวิจัยสหรัฐได้นำข้อมูลผู้ป่วยนอกมณฑลหูเป่ย ที่ตั้งของเมืองอู่ฮั่นรายแรก ๆ ประมาณ 140 คนมาประเมินว่าเชื้อไวรัสโคโรนาแพร่จากศูนย์กลางการระบาดมากน้อยเพียงใด พบว่าช่วงเวลาที่พบผู้ป่วยนอกหูเป่ย มณฑลอื่น ๆ ในจีนมีชุดตรวจหาเชื้อแล้ว มีมาตรการเฝ้าระวังคนที่มาจากอู่ฮั่น และระบบสาธารณยังรับมือไหว ส่งผลให้ตัวเลขผู้ป่วยนอกหูเป่ยต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะเมื่อนำข้อมูลการระบาดในจีนมาดูว่า ผู้ป่วยแต่ละคนเกี่ยวข้องกันอย่างไรหรือได้รับเชื้อร่วมกันที่ใด และข้อมูลสมาร์ทโฟนประเมินจำนวนคนเดินทางเข้าออกอู่ฮั่นในแต่ละวัน มาเทียบกับอัตราการเสียชีวิตในอู่ฮั่นพบว่า จำนวนผู้ป่วยเพิ่มเป็นสองเท่าภายในเวลาเพียง 2.3-2.3 วันเท่านั้น ไม่ใช่ 6-7 วันอย่างที่คิดกัน 


ผลการศึกษาความรุนแรงของการระบาดในช่วงต้นที่พบใหม่นี้ทำให้คณะนักวิจัยได้ข้อสรุปว่า กว่าจะเกิดภูมิต้านทานหมู่ คนในชุมชนต้องติดเชื้อหรือได้รับวัคซีนอย่างน้อยละ 82 จึงจะหยุดยั้งการระบาดได้ ไม่ใช่ร้อยละ 60 อย่างที่เชื่อกัน คณะนักวิจัยเตือนด้วยว่า การที่โควิด-19 มีอัตราการติดเชื้อสูง ทำให้ผู้ป่วยไม่แสดงอาการมีโอกาสแพร่เชื้อถึงร้อยละ 20 ดังนั้นลำพังการกักโรคและตามหาผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยที่แสดงอาการอาจไม่เพียงพอที่จะยังยั้งการระบาดได้ ต้องรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากผู้ป่วยไม่แสดงอาการด้วย.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]