โตเกียว 8 เม.ย.- รอยเตอร์เผยผลสำรวจว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะถดถอยหนักในปีนี้ เพราะมีแนวโน้มจะหดตัวเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกันในไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายน เนื่องจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำลายธุรกิจและชีวิตประจำวัน
ผลสำรวจที่สอบถามนักเศรษฐศาสตร์ 40 คนระหว่างวันที่ 30 มีนาคม-6 เมษายนพบว่า เกือบร้อยละ 80 คาดว่าสิ่งที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจ (BOJ) จะทำต่อไปคือผ่อนคลายมาตรการทางการเงิน ร้อยละ 50 คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนนี้ หลังจากบีโอเจผ่อนคลายการให้เงินทุนภาคธุรกิจไปเมื่อเดือนก่อนเพื่อประคองตลาดที่ถูกกระทบหนัก ผลสำรวจคาดว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลกจะหดตัวร้อยละ 3.7 ต่อปีในไตรมาสเดือนมกราคม-มีนาคม และร้อยละ 6.1 ต่อปีในไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายน หลังจากหดตัวไปแล้วร้อยละ 7.1 ในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน ครั้งนั้นเป็นผลกระทบจากการขึ้นภาษีขายในเดือนตุลาคม เศรษฐกิจญี่ปุ่นเคยหดตัวสามไตรมาสติดต่อกันในช่วงไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2553 จนถึงไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายน 2554 ตรงกับช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิใหญ่ในเดือนมีนาคม
ผลสำรวจคาดว่า ปีงบประมาณปัจจุบันที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เศรษฐกิจจะหดตัวร้อยละ 2.1 จากนั้นจะดีดตัวขึ้นร้อยละ 6.1 ในปีงบประมาณหน้า อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทหลักทรัพย์ไดวาเตือนว่า การคาดการณ์ดังกล่าวอาจต้องปรับเปลี่ยน ขึ้นกับว่าจะต้องใช้มาตรการห้ามเดินทางและรักษาระยะห่างทางสังคมนานเพียงใด และถึงแม้การระบาดในประเทศอุตสาหกรรมเริ่มชะลอลง แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ จึงอาจต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวในรูปตัว W ไม่ใช่ตัว V
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุด ภาคการท่องเที่ยวเสียหายหนัก กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีภาระเพิ่มขึ้นจากการที่คนต้องรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อควบคุมการระบาด ญี่ปุ่นต้องเลื่อนการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน โตเกียว 2020 ออกไปอีกหนึ่งปีทั้งที่เตรียมเปิดฉากในเดือนกรกฎาคมนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 124 ปีของประวัติศาสตร์โอลิมปิกยุคใหม่ ส่วนเมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 7 จังหวัด และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 32.8 ล้านล้านบาท).-สำนักข่าวไทย