สหรัฐ 7 เม.ย.- สหรัฐยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตถึง 1,150 คนภายในวันเดียว ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเกินกว่า 10,000 คนแล้ว
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสหรัฐยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดพบว่ามีผู้เสียชีวิตในรอบ 24 ชั่วโมงมากถึง 1,150 คนนับเป็นยอดตายรายวันสูงสุด ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 10,876 คน ขณะที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีกกว่า 30,000 คน เวลานี้สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 367,000 คนแล้ว
สหรัฐยังคงประสบปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยและเครื่องช่วยหายใจ ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่ามีการทำข้อตกลงกับบริษัท 3M ให้ทำการผลิตหน้ากากจำนวนหลายล้านชิ้น โดยนายทรัมป์ระบุว่า 3M จะผลิตหน้ากากอนามัยคุณภาพดีเพิ่มอีกเดือนละ 55.5 ล้านชิ้น ซึ่งหน้ากากเหล่านี้จะจัดสรรให้กับบุคลากรทางการแพทย์
ด้านนายเกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียประกาศว่าทางรัฐจะทำเรื่องขอยืมเครื่องช่วยหายใจจำนวน 500 เครื่องจากคลังของรัฐบาลกลาง เพื่อนำมาใช้กับผู้ป่วยวิกฤติในโรงพยาบาลหลายแห่ง ขณะที่ทางการคาดว่าสถานการณ์แพร่ระบาดในรัฐแคลิฟอร์เนียจะถึงจุดวิกฤติหนักสุดในราวกลางเดือนพฤษภาคม
ขณะที่นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กซึ่งเป็นพื้นที่แพร่ระบาดรุนแรงที่สุดในประเทศประกาศขยายเวลาบังคับใช้มาตรการให้ประชาชนพักอยู่กับบ้านออกไปอีกจนถึงสิ้นเดือน ส่วนโรงเรียนและธุรกิจที่ไม่จำเป็นจะปิดไปจนถึงวันที่ 29 เดือนนี้ พร้อมกับเพิ่มโทษปรับเป็นเงินถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 33,000 บาท สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนจากเดิมที่มีโทษปรับ 500 ดอลลาร์สหรัฐ
เวลานี้รัฐบาลสหรัฐกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเตรียมการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ล่าช้าเกินไป ทั้งๆ ที่มีรายงานการแพร่ระบาดในจีนมาตั้งแต่เดือนต้นเดือนมกราคม แต่รัฐบาลสหรัฐกลับรอจนถึงกลางเดือนมีนาคมถึงจะเริ่มเตรียมการจัดหาหน้ากาก N95 เครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้ออื่นๆ ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนอย่างหนักและในช่วงเวลาดังกล่าวแพทย์และพยาบาลต้องทำการรักษาผู้ติดเชื้อโดยไม่มีชุดป้องกันการติดเชื้อที่เหมาะสม.-สำนักข่าวไทย