ถอดบทเรียนสิงคโปร์รับมือโควิด-19

สิงคโปร์ 3 เม.ย.- สิงคโปร์ใช้มาตรการเข้มข้นตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จาก 100 คนเป็น 1,000 คนภายในหนึ่งเดือน ทำให้สามารถควบคุมการระบาดได้อย่างในระดับหนึ่ง ด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนให้คนรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัดหลังเกิดการระบาดระยะสอง


สิงคโปร์ติดตามหาผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด-19 อย่างจริงจัง เข้มงวดการกักโรค จำกัดการเดินทาง และตรวจหาเชื้อขนานใหญ่ ข้อมูลจนถึงวันที่ 25 มีนาคมสิงคโปร์ตรวจหาเชื้อประชาชนได้ 6,800 คนต่อ 1 ล้านคน เทียบกับเกาหลีใต้และไต้หวันที่ตรวจได้ 6,500 คนและ 1,000 คนต่อ 1 ล้านคนตามลำดับ โดยที่ประชาชนยังใช้ชีวิตประจำวันตามเดิม โรงเรียนและห้างสรรพสินค้าเปิดตามปกติ ยอดผู้ป่วยใหม่ในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นต่อวันเป็นตัวเลขหลักเดียวตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์ แต่วันที่ 1 เมษายนวันเดียวเพิ่มขึ้นถึง 74 คน และอีก 49 คนเมื่อวานนี้ แม้ว่ามีผู้หายดีแล้ว 266 คน ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ยอดผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นเป็นการระบาดระยะสอง 

การระบาดระยะแรกเกิดขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่แพร่เชื้อให้ชาวสิงคโปร์ในช่วงแรกของการระบาดที่เริ่มจากจีน ทำให้ทางการเข้มงวดการเข้าประเทศกับคนที่เดินทางมาจากจีน ตามด้วยเกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน และห้ามคนจากทั่วโลกในที่สุด ส่วนการระบาดระยะสองส่วนใหญ่เป็นชาวสิงคโปร์ที่กลับมาจากประเทศที่เริ่มมีการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างสหรัฐและอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีการติดเชื้อภายในชุมชนและมีผู้ป่วยที่ไม่รู้ที่มา ทางการจึงได้เข้มงวดมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ห้ามคนเข้าประเทศทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม ตามด้วยการปิดสถานบันเทิง จำกัดการรวมตัวในที่สาธารณะไม่ให้เกิน 10 คน ลงโทษบุคคลและร้านค้าที่ไม่เว้นระยะห่าง  1 เมตร ขอให้ประชาชนออกจากบ้านเฉพาะเมื่อจำเป็น 


นายลอเรนซ์ หว่อง รัฐมนตรีการพัฒนาแห่งชาติในฐานะประธานร่วมคณะทำงานเฉพาะกิจไวรัสโคโรนาเผยว่า สองสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะชี้ว่ามาตรการของทางการได้ผลหรือไม่ สิงคโปร์พบผู้ป่วย 100 คนช่วงต้นเดือนมีนาคม ขณะนี้พบแล้ว 1,049 คน เสียชีวิต 5 คน ด้านผู้เชี่ยวชาญมองว่า แม้สิงคโปร์ใช้มาตรการเข้มงวดแต่ก็ยังควบคุมกรระบาดไม่ได้มากอย่างที่ควรเพราะประชาชนหย่อนยานเรื่องการรักษาระยะห่างทางสังคม บริษัทยังให้คนไปทำงาน เพิ่มความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากผู้ป่วยที่ยังไม่แสดงอาการ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ