อินเดียล็อกดาวน์ประเทศ 21 วันสู้โควิด-19 ระบาด

ต่างประเทศ 25 มี.ค. – อินเดียประกาศปิดทั้งประเทศนาน 21 วัน ห้ามคน 1,300 ล้านคน ออกนอกบ้าน สู้โรคโควิด-19 แพร่ระบาด ด้านองค์การอนามัยโลกเตือนสหรัฐอาจกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดใหญ่แห่งใหม่ของโลก ท่ามกลางการขาดแคลนยาและเครื่องมือแพทย์

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย แถลงว่า อินเดียทั่วทั้งประเทศจะถูกปิดตาย ห้ามผู้คนออกนอกบ้าน มีผลบังคับเที่ยงคืนวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เพื่อรักษาอินเดียและพลเมืองทุกคน ถ้าไม่ดำเนินการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ใน 21 วันจากนี้ อินเดียจะถอยหลังกลับไปอีก 21 ปี ซึ่งการเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นทางเดียวที่จะหยุดยังการระบาดของไวรัสมรณะได้

มาตรการปิดประเทศมีขึ้นขณะยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 519 คน และมีผู้เสียชีวิต 10 คน และทำให้อินเดียที่มีประชากร 1,300 ล้านคน เป็นประเทศล่าสุดที่ใช้มาตรการดังกล่าวควบคุมการระบาดของโควิด-19 ก่อนหน้านี้ หลายรัฐของอินเดียต่างออกมาตรการควบคุมการระบาด เช่น เข้มงวดการเดินทางและปิดธุรกิจหรือบริการที่ไม่จำเป็น รัฐบาลอินเดียยังห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ และปิดเที่ยวบินภายในประเทศ รวมทั้งระงับบริการรถไฟโดยสารเกือบทั้งหมด


ขณะที่ฝรั่งเศสพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 240 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 1,100 คน กลายเป็นประเทศที่ 5 ในโลกที่มีผู้เสียชีวิตเกิน 1,000 คน ต่อจากจีน อิตาลี อิหร่าน และสเปน

ด้านองค์การอนามัยโลกออกมาเตือนว่าจากระดับการระบาดในตอนนี้ ถือว่ามีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐจะกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดใหญ่แห่งใหม่ของโลก ท่ามกลางการขาดแคลนยาและเครื่องมือแพทย์ ซึ่งเหล่าผู้นำท้องถิ่น โดยเฉพาะมหานครนิวยอร์ก กล่าวโทษรัฐบาลกลางรับมือการระบาดได้ไม่ดี และไม่ส่งเครื่องมือมาช่วยอย่างเพียงพอ

นายแอนดรูว์ คูโอโม นายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก ระบุด้วยว่า ตอนนี้โรคโควิด-19 ระบาดในนิวยอร์กเร็วกว่ารถไฟหัวกระสุน นิวยอร์กต้องการเครื่องช่วยหายใจ 30,000 เครื่อง แต่สำนักงานจัดการภัยฉุกเฉินส่วนกลางส่งมาให้แค่ 400 เครื่อง ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ 20,000 กว่าคนคงตายก่อน  


สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 แล้วกว่า 42,000 คน ในจำนวนนี้กว่า 1 ใน 3 อยู่ในรัฐนิวยอร์ก และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 559 คน ในจำนวนนี้อยู่ในนิวยอร์ก 131 คน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้ทะลุ 400,000 คนไปแล้ว ผู้รักษาหายขาดกว่า 100,000 คน และมีผู้เสียชีวิตใกล้ถึง 17,000 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว