สหรัฐ 23 มี.ค.- สหรัฐพบผู้เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 พุ่งขึ้นถึง 9,300 คนภายในวันเดียว ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ สามรองจากจีนและอิตาลี
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดในสหรัฐอยู่ที่เกือบ 33,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 419 คน เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อหรือกว่า 15,000 คนอยู่ในรัฐนิวยอร์ก นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กคาดว่าชาวรัฐนิวยอร์กราวร้อยละ 40 ถึงร้อยละ 80 จะได้รับเชื้อนี้ สิ่งที่กำลังพยายามทำคือ ชะลอการระบาดของเชื้อ
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้กองกำลังพิทักษ์ชาติประจำการในรัฐนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย และนิวยอร์ก และจัดตั้งสถานีการแพทย์ฉุกเฉินในสามรัฐดังกล่าว โดยที่รัฐแคลิฟอร์เนียจะมี 8 สถานี และมีเตียงคนไข้ 2,000 เตียง ส่วนรัฐนิวยอร์กและรัฐวอชิงตันจะมี 4 สถานี และเตียงคนไข้ 1,000 เตียงเท่ากัน ผู้นำสหรัฐให้ความมั่นใจกับชาวอเมริกันว่าจะทำทุกอย่างเพื่อรับมือและเอาชนะศัตรูที่มองไม่เห็นนี้ได้ในที่สุด ทรัมป์ยังได้แสดงความผิดหวังที่จีนไม่ได้ให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสมรณะชนิดนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ขณะเดียวกัน รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ได้ขอให้ห้องทดลองต่างๆ ของเอกชนให้ความสำคัญกับการทดสอบหาไวรัสแก่ผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลก่อน เพื่อจัดการกับผู้ป่วยที่ยังรอผลตรวจอยู่ พร้อมแนะนำให้ผู้ที่ยังไม่มีอาการใดๆ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล และล่าสุดมีรายงานว่า วุฒิสมาชิกแรนด์ พอล สังกัดพรรครีพับลิกันกลายเป็นวุฒิสมาชิกอเมริกันคนแรกที่เป็นโรคโควิด-19 เขาทวีตบอกว่า สบายดีและกำลังกักตัวอยู่.-สำนักข่าวไทย