ทอนโด 19 มี.ค.- ชี้ชุมชนแออัดและกลุ่มคนยากจนในเอเชียส่วนใหญ่ถูกทิ้งให้ต้องดูแลป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพราะการกักดูอาการหรือการรักษาสุขอนามัยเป็นเรื่องยากมากในชีวิตประจำวันของพวกเขา
ธนาคารโลกเผยในปี 2560 ว่า เอเชียตะวันออกและแปซิฟิกมีผู้อาศัยตามชุมชนแออัดมากถึง 250 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในจีน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ บ้านแต่ละหลังแออัดคับแคบ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอนรวมอยู่ในที่เดียวกันหมดและไม่มีน้ำสะอาดใช้ ขณะที่ทางเดินในชุมชนก็แคบจนต้องสัมผัสกันระหว่างตะแคงตัวเดิน การอยู่นอกบ้านจึงอาจรอดจากการติดเชื้อมากกว่าอยู่ในบ้าน นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่านของปากีสถานเผยว่า จะใม่ประกาศปิดเมืองเพราะผู้คนจำนวนมากมีชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบากอยู่แล้ว การปิดเมืองอาจช่วยพวกเขาไม่ให้ติดเชื้อ แต่อาจทำให้พวกเขาอดตาย
หลายประเทศในเอเชียออกมาตรการเข้มงวดเพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 ฟิลิปปินส์สั่งประชากรครึ่งประเทศจากทั้งหมด 110 ล้านคนให้อยู่แต่ในบ้าน ครอบคลุมกรุงมะนิลาด้วย แต่ยังไม่เห็นการบังคับใช้ตามชุมชนแออัด คุณแม่ลูกสี่วัย 23 ปีที่อาศัยในบ้านขนาดเท่าตู้เสื้อผ้าในเขตทอนโดของกรุงมะนิลาบอกว่า ชุมชนอื่นอาจกักดูอาการได้เพราะรวย บ้านใหญ่โต มีพื้นที่เหลือ แต่ชุมชนเธอทำไม่ได้ เพราะธรรมดาก็อยู่กันอย่างเบียดเสียดอยู่แล้ว นักวิจัยสถาบันการพัฒนาศึกษาเขียนบทความแสดงความเห็นว่า ทางการบอกว่าไวรัสโคโรนาแพร่ผ่านสะอองน้ำมูกน้ำลาย จึงควรอยู่แต่ในบ้านและล้างมือบ่อย ๆ แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ทั้งสองอย่างจะให้ทำอย่างไร คนยากจนในเขตเมืองเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มอื่น ในเรื่องนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขชี้ว่า นอกจากเงินแล้ว การเข้าถึงสถานพยาบาลที่มีคุณภาพอย่างทันท่วงทีในช่วงที่มีการปิดเมืองเป็นสิ่งที่จะชี้เป็นชี้ตายได้ในเวลานี้ .- สำนักข่าวไทย
