17 มี.ค. – พิษโควิด-19 ระบาด ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งเหวอย่างต่อเนื่อง แม้ธนาคารกลางทั่วโลกจะพยายามแทรกแซงเพื่อพยุงตลาดและประคับประคองเศรษฐกิจแล้วก็ตาม หุ้นดาวโจนส์ ปิดตลาดวานนี้ ลดลง 2,997 จุด หนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวานนี้ ลดลง 2,997 จุด หรือเกือบ 13% หนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530 หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ออกมาบอกว่าพิษสงของโควิด-19 อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การซื้อขายวานนี้ต้องระงับการซื้อขายชั่วคราว 15 นาที หรือเซอร์กิต เบรกเกอร์อีกครั้ง แต่ก็ไม่ช่วยให้นักลงทุนชะลอการเทขายหุ้นมากนัก ขณะที่ฝั่งยุโรป ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลง 4% ซีเอซี 40 ของฝรั่งเศส ตกลง 5.7% และดัชนีแดกซ์ของเยอรมนี ตกลงกว่า 5.3%
ภาวะหุ้นดิ่งลงเหวยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว แม้ธนาคารกลางสหรัฐจะพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือเกือบ 0% และออกโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แล้วก็ตาม การเข้าแทรกแซงของธนาคารกลางเพื่อคลี่คลายผลกระทบทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ทำเช่นเดียวกันทั้งในสหภาพยุโรป อังกฤษ ญี่ปุ่น แคนาดา และสวิตเซอร์แลนด์ แต่ยังไม่อาจทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลลงได้ นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ประกาศเตรียมใช้มาตรการแข็งกร้าวอีกครั้ง เพื่อยับยังความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ด้านนักวิเคราะห์การตลาดของซีเอ็มซี มาร์เก็ต กล่าวว่า ธนาคารกลางพยายามออกมาตรการเพื่อพยุงตลาดหุ้น แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม จึงทำให้ตลาดหุ้นตกอย่างต่อเนื่อง ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอันเป็นผลมาจากการทำสงครามราคากัน น้ำมันดิบเบรนต์มีราคาลดลง 10% เหลือบาร์เรลละไม่ถึง 32 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส ราคาลดลงกว่า 8% เหลือไม่ถึง 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล . – สำนักข่าวไทย