สหรัฐ 28 ก.พ.- เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคในสหรัฐต้องเพิ่มการตรวจสอบหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หลังมีการยืนยันว่า มีผู้ติดเชื้อในรัฐแคลิฟอร์เนียทั้งๆ ที่ไม่เคยเดินทางไปจีน และไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางไปจีน
นายเกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เผยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐกำลังตรวจสอบผู้โดยสารราว 8,400 คน ที่เดินทางมากับเที่ยวบินในประเทศ ว่ามีอาการป่วยจากโรคโควิด-19 หรือไม่ อย่างไรก็ดี นายนิวซอมยอมรับว่า รัฐแคลิฟอร์เนียมีอุปกรณ์ทดสอบการติดเชื้ออยู่อย่างจำกัดเพียง 200 ชุดเท่านั้น แต่ได้ติดต่อไปยังหน่วยงานรัฐบาลกลาง ที่รับปากว่าจะส่งอุปกรณ์ตรวจทดสอบการติดเชื้อมาให้รัฐแคลิฟอร์เนียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นอกจากรัฐแคลิฟอร์เนียแล้ว รัฐบาลกลางสหรัฐยังส่งอุปกรณ์ทดสอบการติดเชื้อไปยังรัฐต่างๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งจะออกกฎหมายจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้ในการรับมือไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ภายใน 2 สัปดาห์นี้อีกด้วย
ส่วนที่มหานครนิวยอร์ก ความหวาดวิตกเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ทำให้ความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มสูงขึ้น และยังทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ร้านขายยาแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ระบุว่า ในแต่ละวันจะมีลูกค้าโทรเข้ามาสอบถามหน้ากากอนามัยถึงกว่า 50 สายต่อวัน นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าเดินเข้ามาซื้อหน้ากากอนามัยราว 30-40 คนต่อวัน ขณะที่ราคาหน้ากากอนามัยได้ขยับสูงขึ้นกว่า 3 เท่าตัว หรือจากปกติกล่องละ 25 ดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นกล่องละ 80 ดอลลาร์สหรัฐ
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ตัดพ้อว่าไม่มีใครให้เครดิตกับรัฐบาลสหรัฐที่สามารถรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดี รวมทั้งกล่าวปกป้องการตัดสินใจของเขาเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ที่สั่งห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางเยือนจีนเข้าประเทศ ซึ่งมาตรการดังกล่าวถูกต่อต้านอย่างมากจากผู้คนและผู้เชี่ยวชาญ แต่ถึงตอนนี้มาตรการนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นมาตรการที่ดี เพราะมีชาวอเมริกันติดเชื้อเพียงเล็กน้อย ทรัมป์ยังเรียกร้องให้ชาวอเมริกันอย่าตื่นตระหนก เพราะสหรัฐมีการเตรียมพร้อมอย่างดีในการรับมือ โดยขณะนี้ผู้ติดเชื้อในสหรัฐยังคงอยู่ที่ 60 คน.-สำนักข่าวไทย