สถานการณ์ไวรัสโคโรนาทั่วโลก ใน 28 ประเทศ ติดเชื้อกว่า 2 หมื่นคน ตาย 427

4 ก.พ. – ภาพรวมการระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลก พบใน 28 ประเทศ ติดเชื้อรวมกว่า 20,000 คน เสียชีวิต 427 คน ยอดผู้เสียชีวิตในจีนวันนี้เพิ่มเป็น 425 คน เพิ่มมากขึ้นเป็นประวัติการณ์จากเมื่อวานถึง 64 คน ขณะที่ในยุโรปก็มีรายงานผู้ติดเชื้อรายแรกที่เบลเยียม ส่วนอาคารสูงที่สุดในโลก “เบิร์จ คาลิฟา” เปิดไฟ “อู่ฮั่นสู้สู้”


ณ เวลา 19.45 น. ภาพรวมการระบาดทั่วโลก พบใน 28 ประเทศ ผู้ติดเชื้อรวมกว่า 20,000 คน เพิ่มขึ้นกว่า 3,000 คน ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิต 427 คน ยอดผู้เสียชีวิตในจีนวันนี้เพิ่มเป็น 425 คน เพิ่มมากขึ้นเป็นประวัติการณ์จากเมื่อวานถึง 64 คน ในยุโรปก็มีรายงานผู้ติดเชื้อรายแรกที่เบลเยียม


ส่วนเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 คน เป็น 16 คน เช่นเดียวกับเวียดนามที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นคนที่ 9 มาเลเซียเพิ่มขึ้น 2 คน เช่นเดียวกับมาเก๊าและเยอรมนี

สถานการณ์วันนี้ ที่ฮ่องกงมีรายงานผู้เสียชีวิตเป็นรายแรก นับเป็นผู้ป่วยนอกประเทศจีนคนที่ 2 ที่เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีผู้ป่วยในฟิลิปปินส์เสียชีวิตเป็นรายแรก 


ผู้ป่วยไวรัสโคโรนาเสียชีวิตรายแรกในฮ่องกง

ชายชาวฮ่องกงวัย 39 ปี ที่เคยเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น และติดเชื้อไวรัสโคโรนา เสียชีวิตแล้ว หลังรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล คณะแพทย์แถลงว่า ผู้ป่วยรายนี้อาศัยอยู่ที่ฝั่งเกาลูน โดยเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางเมืองอู่ฮั่น แต่ไม่ได้ไปเที่ยวตลาดสด อีกทั้งไม่ได้สัมผัสสัตว์ป่าต่างๆ ระหว่างการท่องเที่ยวที่ประเทศจีน และเดินทางกลับจากอู่ฮั่นด้วยรถไฟความเร็วสูงกว่างโจว-เซินเจิ้น-ฮ่องกง จากนั้น 10 วันให้หลัง มีอาการไข้ แพทย์วินิจฉัยว่าติดไวรัสโคโรนา และย้ายไปแยกห้องรักษาที่โรงพยาบาลพรินเซส มาร์กาเรต อาการทรุดลง หัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตเมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ นอกจากนี้ แม่ของเขาวัย 72 ปี แม้ไม่เคยเดินทางไปจีน แต่ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาเช่นกัน แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นการติดจากลูกชาย 

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทางการฮ่องกงได้สั่งปิดพรมแดนที่ติดกับจีน ยกเว้นสะพาน 2 แห่งในเขตเศรษฐกิจ เพื่อสกัดกั้นการระบาดแล้วก็ตาม ตั้งแต่เมื่อวาน บุคลากรทางการแพทย์ราว 2,500 คน ยังผละงานประท้วงกดดันให้ทางการสั่งปิดพรมแดนทั้งหมด

ด้านนางแคร์รี หลำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงได้ออกมาขอร้องไม่ให้ผละงาน และไม่เห็นด้วยที่มีการกล่าวหาว่ารัฐบาลสนใจเรื่องการเมืองมากกว่าสุขภาพของประชาชน แต่การแถลงข่าวครั้งนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวฮ่องกงว่า นางแคร์รี หลำ ไม่สวมหน้ากากอนามัย พร้อมกล่าวว่า ผู้ที่ควรสวมหน้ากากอนามัยคือผู้ป่วยหรือเป็นเจ้าหน้าที่เท่านั้น 

รพ.สนามแห่งที่ 2 เปิดใช้งานก่อนส่งมอบพรุ่งนี้

ขณะเดียวกันในวันนี้ โรงพยาบาลเล่ยเสินซาน ในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 แม้จะกำหนดเสร็จสมบูรณ์ในวันพรุ่งนี้ แต่วันนี้เจ้าหน้าที่เริ่มรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเข้ารักษาตัวแล้ว

จีนปิดเพิ่ม 2 เมือง “ไท่โจว-หางโจว” คุมไวรัสโคโรนา 

นอกจากนี้ทางการจีนยังสั่งปิดเมืองเพิ่มอีก 2 เมืองในมณฑลเจ้อเจียง คือ เมืองไท่โจว และอีกหลายพื้นที่ในเมืองหางโจว โดยจะอนุญาตชาวเมืองที่ถูกปิดออกไปซื้อสิ่งข้าวของที่จำเป็นได้ครัวเรือนละ 1 คน ทุกๆ 2 วันเท่านั้น และหยุดบริการรถไฟเข้าเมืองไท่โจวด้วย    

จีนใช้โดรนพ่นยาฆ่าเชื้อโรค ควบคุมไวรัสโคโรนา

ทางการจีนใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ติดเครื่องขยายเสียงในการพ่นยาฆ่าเชื้อโรคและติดต่อสื่อสารกับประชาชนท่ามกลางคำสั่งปิดเมืองที่บังคับกับหลายเมืองใช้เวลานี้ เจ้าหน้าที่คอยประกาศให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้าน เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ และร้านอาหารต้องปิดให้บริการ

มาเก๊า-ไต้หวัน วิตกไวรัสโคโรนา ออกมาตรการรับมือ 

ส่วนมาเก๊าสั่งปิดสถานกาสิโนทุกแห่งเป็นเวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย และอาจสั่งปิดต่อหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ส่วนไต้หวันประกาศไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติที่เดินทางไปจีนช่วง 14 วันที่ผ่านมาเข้าไต้หวัน เนื่องจากความกังวลการแพร่ระบาด แต่จะไม่รวมถึงผู้ที่เดินทางมาจากฮ่องกงและมาเก๊า  

ออสเตรเลียส่งพลเมืองกลับจากจีนไปเกาะคริสต์มาส 

ส่วนออสเตรเลีย หลังอพยพพลเมืองกลุ่มแรกออกจากเมืองอู่ฮั่น ทางการประกาศว่าไม่มีผู้ใดติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่ทั้งหมดถูกส่งตัวไปรอดูอาการที่ศูนย์ควบคุมบนเกาะคริสต์มาส

“หลิวเต๋อหัว” ยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ต หวั่นไวรัสโคโรนา

ซูเปอร์สตาร์ระดับตำนาน “หลิวเต๋อหัว” ต้องยกเลิกคอนเสิร์ตบนเกาะฮ่องกง หนังสือพิมพ์มาเลย์เมล์ของมาเลเซีย ระบุว่า “หลิวเต๋อหัว” ต้องสูญเสียรายได้อย่างน้อย 200 ล้านบาท เพราะหวั่นสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา นอกจากเกาะฮ่องกงแล้ว ซูเปอร์สตาร์หนุ่มใหญ่ยังมีตารางทัวร์คอนเสิร์ตที่เซี่ยงไฮ้ เมืองกว่างโจว และกรุงปักกิ่งด้วย แต่ยังไม่มีการประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการเหมือนกับที่ฮ่องกง โดยผู้จัดสั่งระงับการจำหน่ายตั๋วไว้เป็นการชั่วคราว พิษไวรัสอู่ฮั่นยังส่งผลถึงงานบันเทิงของดาราดังอีกหลายคนที่โปรแกรมต่างๆ ต้องระงับไว้ก่อนในระยะนี้

อาคารสูงสุดในโลก เปิดไฟ “อู่ฮั่นสู้สู้”

อาคารสูงที่สุดในโลก “เบิร์จ คาลิฟา” ในกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สว่างไสวไปด้วยสัทอักษรจีนหรือพินอิน และถ้อยคำภาษาจีน “อู่ฮั่น เจียโหย๋ว” แปลว่า อู่ฮั่นสู้สู้ เพื่อร่วมเป็นกำลังใจให้ประเทศจีนต่อสู้กับไวรัสนี้ให้ได้ แม้ UAE จะมีรายงานผู้ติดเชื้อ 1 คน ด้วยก็ตาม. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล

บอสแซมมิน

ยังไม่จบ! “แซม-มิน” ลุ้น DSI เห็นแย้งอัยการหรือไม่

แม้อัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม-บอสมิน” แต่ดีเอสไอย้ำชัด คดียังไม่จบ มีเวลาอีก 30 วัน พิจารณาสำนวนที่ถูกตีกลับว่าจะเห็นแย้งคำสั่งหรือไม่ ส่วนประเด็น “บอสมิน” ไม่ถูกตัดผมขณะถูกคุมขัง ราชทัณฑ์มีคำตอบให้แล้ว

ยิงสส.กัมพูชา

ตร.ประสานอัยการ ยื่นขอศาลสืบพยานล่วงหน้าคดีลอบสังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตร.ประสานอัยการ ยื่นขอศาลสืบพยานล่วงหน้าคดีลอบสังหารอดีต สส.กัมพูชา ขณะที่ตัว “จ่าเอ็ม” มือยิง คาดว่าจะยังไม่ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยเร็วๆ นี้

burned houses alongside of road in Pacific Palisades

คนดังแห่อพยพออกจากบ้านในแอลเอ หนีไฟป่า

ผู้มีชื่อเสียงหลายคน รวมถึงคนในแวดวงบันเทิงฮอลลีวูดของสหรัฐ อยู่ในกลุ่มประชาชนหลายหมื่นคนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน หนีไฟป่าที่กำลังโหมไหม้เหนือการควบคุมรอบนครลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย