WHO ประกาศการแพร่ระบาด “ไวรัสโคโรนา” เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน

สวิตเซอร์แลนด์ 31 ม.ค.- องค์การอนามัยโลกประกาศให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตและติดเชื้อยังเพิ่มไม่หยุด


องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้พบว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวได้แพร่ระบาดออกไปในหลายประเทศทั่วโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตและติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งนานาประเทศจะต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด 

นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่าสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่งก็คือเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ เพราะหากเชื้อนี้มีการแพร่ระบาดในประเทศที่มีระบบสาธารณสุขไม่เข้มแข็งก็จะทำให้มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดี WHO ยังคงเชื่อมั่นว่าจีนมีศักยภาพในการควบคุมการแพรร่ระบาดได้ ขณะที่ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตในจีนแล้ว 213 คน และมีผู้ติดเชื้อ 9,692 คน แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิตในต่างประเทศ ขณะที่สหรัฐ และเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อจากคนสู่คนเป็นรายแรก ส่วนญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 3 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อขณะนี้เพิ่มเป็น 14 คน ที่ออสเตรเลียทางการยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อจำนวน 9 คน นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน มีคำแนะนำผู้ที่เดินทางมาจากมณฑลหูเป่ย์ หรือเคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อควรจะกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน เพื่อรอดูอาการ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ