ผู้นำจีนไฟเขียวองค์การอนามัยโลกส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าอู่ฮั่น

จีน 29 ม.ค.- ประธานาธิบดีจีน มั่นใจกำจัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้ ระบุไวรัสคือปีศาจร้าย พวกเราจะปล่อยให้ปีศาจร้ายหลบซ่อนอยู่ไม่ได้ พร้อมจะกระชับความร่วมมือกับนานาชาติ และยินดีต้อนรับองค์การอนามัยโลกส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าอู่ฮั่น


ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ระบุมั่นใจว่าจีนจะสามารถเอาชนะไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ทั้งในจีนและหลายประเทศทั่วโลกได้ ไวรัสคือปีศาจร้าย พวกเราปล่อยให้ปีศาจร้ายหลบซ่อนอยู่ไม่ได้ จีนจะกระชับความร่วมมือกับนานาชาติ ยินดีต้อนรับองค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ ร่วมในการป้องกันไวรัส

ถ้อยแถลงของผู้นำจีนมีขึ้นหลังผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอ นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส เข้าพบนายสี ในกรุงปักกิ่ง หารือแนวทางป้องกันชาวจีนและต่างชาติในพื้นที่ระบาดของไวรัสและช่องทางอพยพผู้คน ระหว่างนี้จีนยังยอมให้ดับเบิลยูเอชโอส่งทีมผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเข้าจีน เพื่อช่วยตรวจสอบหาแหล่งต้นตอแพร่ระบาดและนำความพยายามรับมือการแพร่ระบาดโลก 


ส่วนยอดผู้ติดเชื้อได้รับการยืนยันล่าสุดในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 5,494 คน ผู้เสียชีวิตทะลุ 131 คนแล้ว ส่วนใหญ่อยู่มณฑลหูเป่ย์ ซึ่งมีอู่ฮั่น เป็นเมืองเอก และแหล่งแพร่ระบาดของไวรัสครั้งแรกตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

สถานการณ์ระบาดของไวรัสในพื้นที่อื่นๆ ของโลก ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 6 คน รวมเป็น 14 คน ซึ่งอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ถือว่ามีผู้ติดเชื้อมากที่สุดนอกประเทศจีน ส่วนฝรั่งเศส พบผู้ติดเชื้อคนที่ 4 เป็นนักท่องเที่ยวชายชาวจีนสูงวัยในกรุงปารีส เร่งตรวจสอบผู้อาจติดต่อสัมผัสกับผู้ป่วยรายนี้แล้ว 

ด้านสหรัฐที่มีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว 5 คน กำลังเร่งตรวจสอบผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีกกว่า 100 คน ใน 26 รัฐทั่วประเทศ อีกทั้งจะขยายการตรวจสอบคัดกรองผู้โดยสารจากจีนจาก 5 สนามบินเป็น 20 สนามบิน และจะพิจารณาเข้มงวดการเดินทางไปจีนต่อไป 


นอกจากนี้ ยังพบผู้ติดเชื้อในไต้หวันและฮ่องกง ชาติละ 8 คน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และมาเก๊า ชาติละ 7 คน ออสเตรเลีย 5 คน มาเลเซีย เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ชาติละ 4คน เวียดนามและแคนาดาชาติละ 2 คน ส่วนเนปาล กัมพูชา และศรีลังกา ชาติละ 1 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]