แบกแดด 27 ม.ค.- สถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดดของอิรักถูกจรวด 3 ลูกยิงเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการโจมตีโดยตรงที่มีการรายงานครั้งแรก หลังจากที่มีเสียงเรียกร้องตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาให้ปิดสถานทูตสหรัฐ
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ได้เสียงดังสนั่นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไทกริสเมื่อเวลา 19.30 น.วันอาทิตย์ตามเวลาอิรัก แหล่งข่าวความมั่นคงเผยว่า จรวดลูกหนึ่งยิงถูกห้องอาหารของสถานทูตในช่วงมื้อค่ำ จรวดอีกสองลูกยิงมาตกใกล้ ๆ กัน เจ้าหน้าที่อิรักเผยว่า มีคนบาดเจ็บอย่างน้อย 1 คน ยังไม่ทราบว่าอาการร้ายแรงเพียงใด และไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่อเมริกันหรืออิรัก กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเรียกร้องให้อิรักปกป้องสถานที่ทางการทูตของสหรัฐอย่างแข็งขัน ขณะที่นายกรัฐมนตรีอาเดล อับเดล มาห์ดีและนายโมฮัมเหม็ด ฮัลบูซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรอิรักประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเสี่ยงทำให้ประเทศบ้านเกิดเข้าสู่สงคราม
สหรัฐประจำการทหารในอิรัก 5,200 นายเพื่อเป็นแกนนำกองกำลังพันธมิตรปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) แต่มีเสียงเรียกร้องให้ขับทหารอเมริกันออกนอกอิรักมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสหรัฐยิงขีปนาวุธสังหาร พล.ต.กาเซม โซไลมานี นายทหารทรงอิทธิพลของอิหร่านใกล้ท่าอากาศยานกรุงแบกแดดเมื่อต้นเดือน เสียงเรียกร้องและการเคลื่อนไหวยิ่งหนักขึ้น นายมอกตาดา อัลซาดร์ นักสอนศาสนาต่อต้านอเมริกันจัดการชุมนุมใหญ่ในกรุงแบกแดดเมื่อวันศุกร์ และประกาศเลิกสนับสนุนกลุ่มเยาวชนที่ประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิรักมาตั้งแต่เดือนตุลาคม รายงานเผยว่า บรรดาสาวกเริ่มรื้อเต็นท์ที่ใช้ปักหลักประท้วงและมุ่งหน้ากลับบ้านตามความต้องการของนายอัลซาดร์ แต่เจ้าหน้าที่อิรักฉวยโอกาสใช้กำลังกับผู้ประท้วง ทำให้เกิดการปะทะกันตามเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ นักศึกษาจำนวนมากออกมาแสดงพลังประณามเจ้าหน้าที่ที่ใช้ความรุนแรง การประท้วงที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมมีสาเหตุมาจากความไม่พอใจเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ย่ำแย่ มีคนเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 470 คน ผู้ประท้วงต้องการให้จัดการเลือกตั้งใหม่ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่เป็นกลาง ดำเนินคดีกับคนทุจริตและทำให้เกิดเหตุนองเลือด.-สำนักข่าวไทย