วอชิงตัน 21 ม.ค.- วุฒิสภาสหรัฐจะเริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หลังจากสภาผู้แทนราษฎรตั้งข้อหาทรัมป์อย่างเป็นทางการว่ากระทำการที่ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ อันเป็นเหตุผลให้ถูกถอดถอนได้ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้
พรรคเดโมแครตซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรตั้งข้อหาทรัมป์เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมว่ากระทำผิดตามบทบัญญัติการถอดถอน 2 บท บทแรกคือการใช้อำนาจในฐานะประธานาธิบดีโดยมิชอบกรณีกดดันให้ประธานาธิบดียูเครนช่วยให้ชนะเลือกตั้งอีกสมัย เป็นการทำอันตรายต่อรัฐธรรมนูญ ทำลายผลประโยชน์ของประเทศ บ่อนทำลายความสมบูรณ์ของการเลือกตั้งปี 2563 อีกบทคือการขัดขวางรัฐสภากรณีไม่ส่งมอบบันทึกตามที่รัฐสภาขอเพื่อเปิดการไต่สวนในเดือนกันยายนและสั่งคนในรัฐบาลไม่ขึ้นให้การต่อรัฐสภา จึงจำเป็นต้องถอดถอนทรัมป์เพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติและปกปักระบบการปกครองประเทศ
พรรคเดโมแครตอ้างว่า หลักฐานสำคัญในการถอดถอนทรัมป์คือการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ที่กดดันให้ผู้นำใหม่ยูเครนเปิดการสอบสวนคดีทุจริตของนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีที่สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้เงินช่วยเหลือทางทหารเกือบ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 12,152 ล้านบาท) และไม่ได้เข้าพบที่ทำเนียบขาว เดโมแครตอ้างคำให้การของเจ้าหน้าที่รัฐบาลทั้งอดีตและปัจจุบันหลายคนว่า ยืนยันตรงกันในเรื่องนี้
ด้านพรรครีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาแย้งว่า คำร้องของเดโมแครตเป็นเพียงเรื่องบอกเล่าเพราะอ้างแต่คำให้การของเจ้าหน้าที่ระดับกลางที่ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับทรัมป์โดยตรง ขณะเดียวกันก็ไม่มีการแลกเปลี่ยนใด ๆ เกิดขึ้น หลังจากประธานาธิบดีเซเลนสกีไม่ทำตามสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการ เพราะผู้นำยูเครนได้รับความช่วยเหลือทางทหารแม้ว่าล่าช้ากว่ากำหนด และได้พบกับผู้นำสหรัฐนอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติแม้ไม่ใช่ที่ทำเนียบขาว รีพับลิกันกันกล่าวหาเดโมแครตว่า ใช้กระบวนการถอดถอนเป็นเครื่องมือ ทีมทนายความของทรัมป์แย้งว่า ข้อหาของเดโมแครตไม่เข้าข่ายการกระทำผิดที่ต้องถูกถอดถอนเพราะประธานาธิบดีมีสิทธิที่จะตัดสินใจว่าจะดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างไรและจะส่งมอบเอกสารใดให้แก่รัฐสภา.-สำนักข่าวไทย