คาร์นิวัลบราซิลชุลมุน ตร.ยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยางสลายฝูงชน

บราซิล 13 ม.ค.-เทศกาลคาร์นิวัลในนครรีโอเดจาเนโรของบราซิล กลายเป็นเหตุชุลมุนวุ่นวาย จนตำรวจต้องตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง เพื่อสลายฝูงชนตามท้องถนนและบริเวณชายหาด


บรรยากาศงานเทศกาลคาร์นิวัลในนครรีโอเดจาเนโรของบราซิล เริ่มขึ้นก่อนจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ แต่การฉลองล่วงหน้าครั้งนี้กลายเป็นเหตุชุลมุนวุ่นวาย จนตำรวจต้องตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง เพื่อสลายฝูงชนตามท้องถนนและบริเวณชายหาด


ผู้ที่มาฉลองงานเทศกาลคาร์นิวัลล่วงหน้าคนหนึ่งกล่าวว่า ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชน ทั้งๆ ที่มีเด็กหลายคนรวมอยู่ในกลุ่ม และเหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นที่ตำรวจต้องใช้กำลังรุนแรงและยิงแก๊สน้ำตา สำหรับเทศกาลคาร์นิวัลในปีนี้กำหนดจะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส