หนทางที่เลือกเดิน “เจ้าชายแฮร์รี-เมแกน” นอกรั้วบักกิงแฮม

อังกฤษ 10 ม.ค. – สะเทือนราชวงศ์อังกฤษ หลังเจ้าชายแฮร์รี และดัชเชสเมแกน พระชายา ทรงประกาศลดบทบาทจากการเป็นสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์วินด์เซอร์ เพื่อใช้ชีวิตในแบบฉบับของตน



แถลงการณ์ของเจ้าชายแฮร์รี และดัชเชสเมแกน ระบุชัดว่า ทรงต้องการเป็นอิสระ ทำงานหาเงินด้วยพระองค์เอง และถอยห่างจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์ โดยแถลงการณ์ของพระองค์ถูกโพสต์บนเว็บไซต์ sussexroyal.com และถูกนำมาโพสต์ผ่านอินสตาแกรม sussexroyal อีกครั้ง ระบุว่า หลังไตร่ตรองหลายเดือน เราทั้งคู่เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงในปีนี้ ด้วยบทบาทใหม่ แต่จะยังคงให้การสนับสนุนสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อย่างเต็มที่ โดยจะรักษาสมดุลการใช้ชีวิตครอบครัว และดูแลพระโอรส ทั้งในสหราชอาณาจักร และอเมริกาเหนือ ให้ดีที่สุด 


ทั้งนี้ ทางสำนักพระราชวังอังกฤษ ทั้งควีนเอลิซาเบธที่ 2 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ รวมถึงเจ้าชายวิลเลียม ไม่ได้ทรงทราบเรื่องนี้มาก่อน Daily Mail สื่อใหญ่ของอังกฤษ ระบุว่า ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงกริ้วมากกับเหตุการณ์นี้ ขณะที่สมาชิกราชวงศ์องค์อื่นๆ ต่างตกตะลึง เสียใจ และโกรธ ต่อข่าวช็อกนี้ ขณะที่สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ว่า เรื่องนี้ซับซ้อน ต้องใช้เวลาในการพิจารณา แม้จะเข้าใจความต้องการของเจ้าชายแฮร์รี และเมแกน ที่ต้องการเดินในเส้นทางที่แตกต่าง 


มีรายงานว่า เจ้าชายแฮร์รี และดัชเชสเมแกน ทรงแอบตัดสินใจลดบทบาทสมาชิกราชวงศ์ระดับสูง ขณะพำนักอยู่ในแคนาดาในช่วงปีใหม่ ด้วยการสร้างเว็บไซต์ใหม่ที่เป็นอิสระจากราชวงศ์ สำหรับสาเหตุการลดบทบาท คาดว่ามาจากการที่ทั้ง 2 พระองค์ ถูกสื่อแทบลอยด์อังกฤษโจมตีอย่างหนัก ทั้งเรื่องการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปพักร้อนอย่างหรูหรา หรือการใช้เงินภาษีของชาวอังกฤษถึง 2,400 ล้านปอนด์ หรือราว 94 ล้านบาท ในการปรับปรุงพระตำหนัก Frogmore โดยเฉพาะดัชเชสเมแกน ที่ถูกสื่อค่อนขอดมาโดยตลอด จนเจ้าชายแฮร์รีทรงทนไม่ไหว ถึงขั้นฟ้องสื่อแทบลอยด์ชื่อดังที่ออกข่าวเกินจริง โดยทรงฟ้อง Daily mail ที่ตีพิมพ์จดหมายส่วนตัวของ เมแกน ที่เขียนไปถึงคุณพ่อชาวอเมริกันของเธอที่มีปัญหากันอยู่ นอกจากนี้ยังฟ้อง The Sun และ The Mirror ว่าแอบดักฟังโทรศัพท์ 

สำหรับ ดัชเชสเมแกน เดิมทีเคยเป็นที่รักของสื่ออังกฤษ แต่ต่อมากลับถูกสื่อโจมตีหนักข้อขึ้นทุกวัน โดยตั้งฉายาเธอว่า ดัชเชสเรื่องเยอะ หรือขนานนามเธอว่า ยัยตัวร้าย พร้อมหลักฐานชัดเจน นั่นคือ การที่นางสนองพระโอษฐ์หลายคนต่างตบเท้าลาออก เพราะทนไม่ไหวกับความเรื่องมากของเธอ สื่อหัวสีอังกฤษแฉว่า ดัชเชสโยนพรมหรูในพระตำหนักทิ้งทันที หลังสุนัขของเธอทำพรมเสียหาย แม้เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปซ่อมแซม 

ข่าวเมาท์ต่างๆ นานาเหล่านี้ ทำให้เจ้าชายแฮร์รีทรงเหนื่อยหน่าย พระองค์เคยตรัสหลายครั้งว่า ทรงอึดอัดกับการถูกสื่อรุกล้ำชีวิตส่วนพระองค์ โดยก่อนหน้านั้น สื่ออังกฤษก็เปิดโปงว่า เจ้าชายแฮร์รี ทรงมีปัญหากับเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา ขณะที่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมา เจ้าชายแฮร์รี ดัชเชสเมแกน และพระโอรสอาร์ชี ก็ยังประทับอยู่ที่แคนาดา ไม่เสด็จกลับอังกฤษ เพื่อเข้าร่วมฉลองคริสต์มาสกับควีนเอลิซาเบธ และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่พระตำหนักซานดริงแฮม ตามธรรมเนียมปฏิบัติเหมือนทุกปี 

มีรายงานว่า พระองค์โปรดที่จะพำนักในแคนาดา ประเทศในเครือจักรภพของอังกฤษมากที่สุด โดยผลสำรวจพบว่า ชาวแคนาดาจำนวนไม่น้อยต้องการให้พระองค์เป็นผู้สำเร็จราชการที่แคนาดา แทนควีนเอลิซาเบธที่ 2 

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า แคนาดาอาจรับบทหนัก หากเจ้าชายทรงพาครอบครัวมาพำนักที่นี่เป็นเวลานาน เพราะรัฐบาลแคนาดาต้องใช้เงินภาษีอากรของชาวแคนาดาในการจัดสรรงบประมาณปีละหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการอารักขาความปลอดภัยให้ครอบครัวของเจ้าชาย โดยเฉพาะพระโอรสอาร์ชี พระชนมายุเพียง 8 เดือน องค์รัชทายาทลำดับที่ 7 ของราชวงศ์อังกฤษ 

เจ้าชายยังระบุในแถลงการณ์ว่า ความกลัวที่สุดของพระองค์ คือ ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิม ข้าพเจ้าเคยสูญเสียพระมารดาไปแล้ว และตอนนี้กำลังเห็นชายาของข้าพเจ้าตกเป็นเหยื่อของสื่อแบบเดียวกันอีก ดังนั้น การตัดสินใจเลือกทางเดินที่เป็นอิสระ อาจดีที่สุดสำหรับพระองค์. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.