ตะวันออกกลางตึงเครียดหนัก! หลังอิหร่านโจมตีฐานทัพสหรัฐ

สหรัฐ, อิหร่าน 8 ม.ค. – สถานการณ์ในตะวันออกกลางกำลังตึงเครียดอย่างหนัก หลังจากเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (8 ม.ค.) กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านระดมยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพของสหรัฐ 2 แห่ง ในอิรัก   


สื่อทางการอิหร่านรายงานว่า สามารถสังหารทหารสหรัฐซึ่งอิหร่านระบุว่าเป็นผู้ก่อการร้ายได้อย่างน้อย 80 คน นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายให้กับโดรน เฮลิคอปเตอร์ ตลอดจนยุทโธปกรณ์อื่นๆ อิหร่านยังขู่ด้วยว่าจะโจมตีประเทศพันธมิตรของสหรัฐในภูมิภาคที่ยินยอมให้สหรัฐเข้ามาตั้งฐานทัพ หรือมีท่าทีต่อต้านอิหร่านและขู่จะโจมตีอิสราเอลด้วย 


การโจมตีครั้งนี้เป็นการแก้แค้นที่นายพลกาเซ็มถูกสังหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากการโจมตีด้วยโดรนของสหรัฐ นายจาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านใช้มาตรการที่เหมาะสมในการป้องกันตนเองภายใต้มาตราที่ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ โดยมุ่งเป้าไปที่ฐานทัพซึ่งใช้โจมตีพลเรือนและเจ้าหน้าที่ระดับสูง พร้อมทั้งกล่าวว่า อิหร่านไม่ต้องการทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียด หรือต้องการสงคราม แต่จะป้องกันตนเองต่อการรุกรานใดๆ ที่เกิดขึ้น 

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวว่า ผลการประเมินความเสียหายเบื้องต้นไม่พบผู้เสียชีวิตจากการโจมตี และเขาจะเปิดแถลงข่าวเช้าวันพุธนี้ในกรุงวอชิงตัน ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้กล่าวปกป้องการสังหารนายพลโซไลมานี ว่าได้ช่วยรักษาชีวิตประชาชนไว้ได้จำนวนมาก พร้อมระบุ เขาทราบข่าวว่านายพลโซไลมานี มีแผนการที่จะโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐหลายแห่งและเขาได้รับทราบเรื่องที่หลายประเทศรู้สึกยินดี


ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ประธานาธิบดีฮัสซัน  โรฮานี ของอิหร่าน แถลงว่า สหรัฐอาจจะตัดแขนของนายพลกาเซ็ม โซไลมานีได้ แต่อิหร่านก็จะตอบโต้ด้วยการตัดขาของสหรัฐในภูมิภาคเช่นกัน   ขณะที่อยาตอลเลาะห์ คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศชัดว่าศัตรูของอิหร่านก็คือสหรัฐและอิสราเอล

ด้านทางการอิรักออกแถลงการณ์ว่า มีขีปนาวุธถูกยิงเข้ามาทั้งหมด 22 ลูก เพื่อโจมตีฐานทัพสหรัฐ 2 แห่ง แต่ไม่มีชาวอิรักเสียชีวิต หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตว่าไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีฐานทัพทั้งสองแห่ง 

สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นทำให้สายการบินหลายแห่งต้องยกเลิกเที่ยวบินที่เดินทางผ่านน่านฟ้าตะวันออกกลาง หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สนง.การบินสหรัฐสั่งห้ามเครื่องบินพาณิชย์ของสหรัฐบินผ่านน่านฟ้าอ่าวเปอร์เซียและอ่าวโอมาน. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

อิหร่านอ้างสังหารทหารสหรัฐได้ 80 นาย

มาเลเซียแอร์ไลน์ เลี่ยงบินผ่านน่านฟ้าอิหร่าน

อิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้สหรัฐแล้ว

ลำดับความขัดแย้งสหรัฐ-อิหร่านตั้งแต่ปีก่อน

สหรัฐยันไม่ถอนทหารออกจากอิรัก

“ทรัมป์” จุดชนวนสงครามโลกรอบใหม่?

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง