1 ม.ค.-หลังจากที่ประเทศในซีกโลกตะวันออกละแวกบ้านเราได้เฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันไปก่อนหน้าหลายชั่วโมงแล้ว ประเทศในซีกโลกอื่นๆ ก็ทยอยเฉลิมฉลองด้วยเช่นกัน
เริ่มต้นด้วยรัสเซีย ซึ่งต้อนรับปีใหม่ด้วยการแสดงพลุดอกไม้ไฟที่ตระการตาริมสองฝั่งแม่น้ำมอสควาในกรุงมอสโก ท่ามกลางอากาศที่อบอุ่นกว่าปกติ แต่ก็ยังมีหิมะปกคลุมเมืองหลวงของรัสเซียเหมือนเช่นทุกปี
ส่วนที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไฮไลท์สำคัญคงไม่พ้นตึกเบิร์จ คาลิฟา ตึกสูงที่สุดในโลก ซึ่งมีการจัดงานนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ ก่อนที่พลุดอกไม้ไฟจะพวยพุ่งออกมาเป็นสายจากตัวอาคารอย่างงดงามพร้อมกับเสียงดนตรี ท่ามกลางเสียงปรบมือและไชโยโห่ร้องของผู้ที่ยืนชมอยู่เบื้องล่าง
ที่กรุงปารีส มีการแสดงพลุดอกไม้ไฟเหนือประตูชัย สัญลักษณ์สำคัญของเมืองหลวงของฝรั่งเศส ขณะที่ผู้คนหลายหมื่นคนออกมาฉลองปีใหม่กันเนืองแน่นบนถนนฌองเซลิเซ่ สำหรับธีมในปีนี้คือ กรุงปารีสเมืองแห่งดนตรี โดยมีการฉายภาพเครื่องดนตรีโดยมีประตูชัยเป็นฉากหลัง
ที่กรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซ ทันทีที่ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ พลุดอกไม้หลากสีสันก็ถูกจุดขึ้นสว่างไสวเหนือวิหารพาร์เธนอนบนเนินเขาอะโครโพลิส ซึ่งพรปีใหม่ที่ชาวกรีกปรารถนาในปีนี้คือ เศรษฐกิจที่ดีขึ้นหลังจากที่ต้องอยู่ในภาวะรัดเข็มขัดมาหลายปี
ส่วนที่กรุงลอนดอน หอนาฬิกาบิ๊กเบนได้กลับมาตีบอกเวลาเที่ยงคืนเข้าสู่ปีใหม่อีกครั้งหลังจากปิดเพื่อบูรณะไปตั้งแต่ปี 2560 และจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2564 ขณะที่ผู้คนพากันไปที่ริมแม่น้ำเธมส์เพื่อรอชมการแสดงพลุดอกไม้ไฟที่ถูกยิงจากรอบๆ ลอนดอนอาย ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในยุโรป
ที่สกอตแลนด์ นอกจากจะมีการแสดงพลุดอกไม้ไฟเหมือนที่อื่นๆ แล้ว งานฉลองปีใหม่ที่คนในสกอตแลนด์เรียกว่า ฮ็อกมาเนย์ ยังต้อนรับปีใหม่ด้วยการยิงปืนใหญ่จากปราสาทในเมืองเอดินบะระ
ปิดท้ายด้วยบรรยากาศการเฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่ผู้คนทั่วโลกใฝ่ฝันอยากไปร่วมงานสักครั้ง นั่นคือ ปีใหม่ย่านไทม์สแควร์ในนครนิวยอร์ก ซึ่งมีการถ่ายทอดสดงานไปสู่สายตาของผู้คนกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลกทุกปี ผู้คนซึ่งคาดว่ามากถึงหนึ่งล้านคนร่วมกันนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2020 ก่อนที่ลูกบอลคริสตัลยักษ์เส้นผ่าศูนย์กลาง 12 ฟุต น้ำหนัก 11,875 ปอนด์ค่อยๆ ถูกปล่อยลงมาจากยอดอาคารวัน ไทม์สแควร์และกระดาษสีที่โปรยปรายลงมา.-สำนักข่าวไทย